ชนาธิปกับโอกาสลุยลีกยุโรปกรุยทางเพื่อนักเตะไทย

เมื่อพูดถึงมิดฟิลด์ทีมชาติไทย ชนาธิป สงกระสินธ์ ที่ค้าแข้งกับคอนซาโดเร ซัปโปโร่ ต้องถือว่าขยับขึ้นมาเป็นมิดฟิลด์แนวหน้าของเจลีกแล้วก็ว่าได้ จากผลงานการติดทีมยอดเยี่ยมของเจลีกในฤดูกาล 2018 และในฤดูกาล 2019 ยังช่วยพาต้นสังกัดคว้ารองแชมป์ลูวานคัพอีกด้วย อีกทั้งในฤดูกาล 2020 ก็ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมสามารถทำแอสซิสต์รวมทั้งทำประตูให้ต้นสังกัดได้อย่างต่อเนื่องจนผู้เชี่ยวชาญหลายสำนักมองว่าน่าจะถึงจุดพีคของเจ้าเจ ก่อนที่เขาน่าจะมีโอกาสได้ย้ายไปหาความท้าทายเพิ่มในลีกยุโรปแล้ว

แน่นอนอยู่แล้วว่าการได้ไปเล่นในลีกยุโรปถือเป็นความฝันสูงสุดของนักฟุตบอลอาชีพไทยทุกคน เช่นเดียวกับชนาธิป ที่ยอมรับเช่นเดียวกันว่าเขาเองก็มีความฝันที่ต้องการจะไปลุยลีกยุโรป ซึ่งชนาธิปเคยกล่าวถึงเป้าหมายของตัวเองไว้ว่า “เราก็อยากไปเหมือนกันครับ ผมว่ามันเป็นกำไรชีวิต” และให้เหตุผลถึงความต้องการว่า “ถ้าผมเล่นได้ มันก็เหมือนเป็นประตูอีกขั้นเพื่อเปิดให้กับนักเตะไทย ให้ได้รับการยอมรับมากกว่าเดิม”

เซ็นสัญญากับเอเย่นใหม่ เป้าหมายหลักลุยยุโรป

เป็นข่าวที่สด ๆ ร้อน ๆ กับการตัดสินใจเซ็นสัญญากับเอเย่นรายใหม่ที่มีชื่อว่า “FPS” ที่มี ธฤติ โนนศรีชัย เป็นผู้บริหารงานโดยมีหุ้นส่วนซึ่งเป็นชาวเยอรมันอยู่ด้วยซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเหตุผลหลักของชนาธิปในการเปลี่ยนเอเย่นใหม่ในครั้งนี้น่าจะมีเป้าหมายหลักในการกรุยทางไปเล่นในลีกยุโรปซึ่ง ก็มีโอกาสไม่น้อยเนื่องจากการที่เอเย่นรายใหม่ซึ่งมีคอนเน็คชั่นกับสโมสรฟุตบอลในเยอรมันอย่างเหนียวแน่นประกอบกับฟอร์มการเล่นและทัศนคติในการเล่นของเจ้าเจ ที่อาจจะโดนใจบรรดาทีมในเยอรมันก็เป็นได้ ซึ่งทาง FPS เองก็มีความต้องการที่จะผลักดันชนาธิปอย่างเต็มตัวด้วยเนื่องจากเหตุผลในทางการตลาดของพวกเขาเองด้วย โดยเตรียมที่จะเสนอโปรไฟล์ของเมสซี่เจ ให้กับหลายสโมสรในเยอรมัน รวมทั้งในลีกอื่น ๆ ในยุโรป เช่น ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน, เฟเนร์บาห์เช, มาลากา หรือแม้กระทั่ง เลสเตอร์ ซิตี้

แน่นอนว่าปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ชนาธิปได้ไปเล่นในลีกยุโรปนอกจากการมีเอเย่นใหม่แล้ว คือจำเป็นต้องโชว์ผลงานให้กับต้นสังกัดคอนซาโดเร ซัปโปโร่ และทีมชาติไทยให้ประสบความสำเร็จที่เป็นรูปเป็นร่าง รวมทั้งโชว์ฟอร์มส่วนตัวโดยการทำประตูและแอสซิสต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้บรรดาสโมสรในยุโรปได้เห็นถึงพัฒนาการและศักยภาพที่ชัดเจนของตัวชนาธิปเอง แน่นอนว่าเหล่าแฟนบอลชาวไทยทุกคนต่างเอาใจช่วยนักเตะไทยคนนี้เพื่อให้มีโอกาสได้ไปเล่นในลีกยุโรปเพื่อเป็นหน้าเป็นตาแก่ประเทศไทยรวมทั้งเป็นใบเบิกทางให้นักเตะคนอื่น ๆ ได้มีโอกาสติดตามไปเล่นในยุโรปดังที่ชนาธิปตั้งใจไว้ให้จงได้


ปิดฉากพรีเมียร์ลีก 2019-2020 ใครสมหวังใครน้ำตาร่วง

จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2019-2020 ฟุตบอลลีกที่มีคนเฝ้าชมเฝ้าติดตามมากที่สุดในโลก ฤดูกาลนี้อาจจะเป็นฤดูกาลที่จบช้าที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพราะสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก อีกทั้งในช่วงท้ายของฤดูกาลยังเป็นการแข่งขันแบบไม่มีผู้ชมในสนามซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่พอสมควร

สำหรับพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ก็ถือว่ามีสถิติใหม่เกิดขึ้นหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นใช้เวลาในการแข่งขันนานที่สุด 351 วัน, ได้แชมป์ก่อนจบฤดูกาลเร็วที่สุด 7 นัดก่อนจบฤดูกาล แต่ประกาศแชมป์ช้าที่สุดนานถึง 11 เดือน, มีการพักเบรก 100 วันเองจากสถานการณ์โควิด -19, มีการใช้ VAR ตัดสินเป็นฤดูกาลแรก แต่หลายคนมองว่าไม่ใช่ตัวช่วยผู้ตัดสินแต่เป็นการตัดสินแทนผู้ตัดสิน อย่างไรก็ดี หลังการปิดฉากฤดูกาลไปแล้วต่างก็มีทั้งทีมที่สุขสมหวัง และทีมที่ผิดหวังกันไปเรียกได้ว่าลุ้นกันจนนัดสุดท้ายเลยทีเดียว

ลิเวอร์พูลได้แชมป์เร็วก่อนจบฤดูกาล 7 นัด ทำพรีเมียร์กร่อย

สำหรับการลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้จบเร็วที่สุด คือ 7 นัดก่อนปิดฤดูกาล ทำให้พรีเมียร์ลีกกร่อยไปพอสมควร แต่ก็โทษใครไม่ได้เนื่องจากแมนเชสเตอร์ซิตี้เป็นคนทำพลาดเสียเองปล่อยให้หงส์แดงลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ง่ายไปหน่อย แต่งานนี้คงเก็บแค้นนี้ไว้ไม่นาน ฤดูกาลหน้าอีกไม่เท่าไหร่คงได้ชำระกันยิ่งแมนฯซิตี้รอดพ้นโทษแบนการซื้อผู้เล่นด้วยแล้ว คงเตรียมสะสมกำลังกลับมาแก้แค้นในฤดูกาลหน้าเป็นแน่แท้ นี่แหละที่เรียกว่าการเป็นแชมป์ว่ายากแล้ว แต่การรักษาแชมป์นั้นยากกว่า

ศึกลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรปมันหยดถึงนัดสุดท้าย

เรียกได้ว่าเพื่อนไม่เคยทิ้งกันจริง ๆ สำหรับ 3 ทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชลซี และ เลสเตอร์ ที่เมื่อทีมใดมีโอกาสทำแต้มหนีห่างหลังจากคู่แข่งพลาดก็มักจะทำพลาดตาม ๆ กัน จนทำให้ต้องลุ้นกันถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีคิวต้องยกพลไปเยือน จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ เพื่อตัดสินหาทีมที่จะได้ไป เล่นถ้วยยุโรป สุดท้ายก็เป็นปิศาจแดงที่สมหวังชนะเลสเตอร์ไปได้ 0-2 เช่นเดียวกับเชลซีที่ เปิดบ้านเอาชนะวูล์ฟแฮมตัน 2-0 คว้าตั๋วไปเล่นถ้วยใหญ่ของยุโรปได้สำเร็จส่งผลให้เลสเตอร์จะได้สิทธิเพียงแค่ไปเล่นถ้วยยูโรปาลีก กับสเปอร์ในฤดูกาลหน้า

พื้นที่ตกชั้นไม่มีดราม่าใด ๆ

สำหรับกลุ่มตกชั้นนั้น นอริช จับจองสัมปทานไปก่อนแล้ว เหลือให้ 3 ที วัตฟอร์ต บอร์นมัธ แอสตัน วิลล่า ได้ลุ้นกัน และสุดท้าย แอสตัน วิลล่า ที่กุมความได้เปรียบได้เพียงผลเสมอกับ เวสต์แฮม เอาตัวรอดอยู่ในพรีเมียร์ลีกต่อไปได้ ปล่อยให้บอร์นมัธที่อุตส่าห์เอาชนะ เอฟเวอร์ตันถึง 3-1 ตกชั้นไปแบบเจ็บแสบ ส่วนวัตฟอร์ต แพ้อาเซนอล 2-3 ตกชั้นตามไป หลังจากมีปัญหาภายในทีม ปลดกุนซือไนเจล เพียร์สันไป

สำหรับฤดูกาลนี้ที่จบไปก็มีเหตุการณ์หลายสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปก็จะกลายเป็นเหตุการณ์ในอดีตเพียงเท่านั้น วันเวลาก็จะยังคงเดินต่อไปข้างหน้า อีกแค่เพียงไม่กี่อึดในฤดูกาลใหม่ก็จะกลับมาพร้อมกับเรื่องราวใหม่ ๆ ให้เราได้ติดตามกันอีก ขอให้แฟนบอลทุกคนชมฟุตบอลอย่างสนุก อย่าดีใจหรือเสียใจกับผลการแข่งขันของทีมรักมากเกินไป


ทีโมร์ แวร์เนอร์ เขี้ยวเล็บสิงห์บลูคนใหม่

ถือว่าจบข่าวเรียบร้อยโรงเรียนสิงห์บลูแล้ว กับการประกาศคว้าตัวกองหน้ากระทิงแดง ทีโมร์ แวร์เนอร์ ของไลป์ซิก ที่จะมาร่วมทีมเชลซีด้วยสัญญา 5 ปี โดยค่าตัวจะอยู่ที่ประมาณ 47.5 ล้านปอนด์ พร้อมรับค่าเหนื่อยที่ 170,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์โดยสัญญาจะสมบูรณ์ในสิ้นเดือนกรกฎาคม และแวร์เนอร์ได้ตัดสินใจที่จะไม่ลงเล่นในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก ที่ยังไม่จบให้กับต้นสังกัดเก่าแล้ว

การได้ตัวทีโมร์ แวร์เนอร์ของเชลซีนั้นถือว่าเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้กับเชลซีอย่างเต็มตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ พวกเขาอาจจะใช้บริการศูนย์หน้าดาวรุ่งอย่าง แทมมี่ อับบราฮัม ซึ่งโชว์ฟอร์มฮ็อตในช่วงต้นฤดูกาล แต่ก็ไม่สามารถรักษาฟอร์มได้ตลอด จนทำให้หลายเกมกุนซือแฟรงค์ แลมพาร์ด ต้องหันไปใช้บริการกองหน้าตัวเก๋าอย่างโอเลวิเย่ ชิรูห์ ซึ่งยังทำได้ไม่ดีมาก ดังนั้นการได้ตัวทีโมร์แวร์เนอร์มาเสริมแดนหน้าถือว่าเป็นการเขย่าเวทีพรีเมียร์ลีกได้แน่นอน

ประโยชน์ที่เชลซีจะได้รับจากทีโมร์ แวร์เนอร์นั้นถือว่าเต็มเปี่ยม ประเด็นแรกเชลซีจะได้กองหน้าตัวเป้าธรรมชาติ ที่มีความเร็ว สามารถครองบอลได้ดี และยิงประตูได้คม สถิติของแวร์เนอร์ในบุนเดสลีการะบุว่า ความเร็วของของเฉลี่ยอยู่ที่ 24-33 กม./ชม. ส่วนสถิติการยิงประตูอยู่ที่นัดละ 0.86 ประตู ซึ่งถือว่าสำคัญมากในการจะช่วยให้เชลซีได้มีลุ้นในการเขย่าเวทีพรีเมียร์ลีกร่วมกับ ลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ความหลากหลายของแวร์เนอร์

นอกจากการเป็นกองหน้าตัวเป้าที่มีความเร็วและยิงประตูได้ดีแล้ว แวร์เนอร์ยังสามารถขยับไปเล่นในตำแหน่งตัวรุกอื่น ๆ ได้อีกด้วย เนื่องจากเป็นนักเตะที่มีความเร็ว ครองบอลดี และมีทัศนคติในการเล่นที่ดี ทำให้สามารถฉีกตัวเองมาเล่นเป็นตัวริมเส้นด้านข้างได้ หรือแม้กระทั่งถอยตัวเองลงมาเป็นกองหน้าตัวต่ำก็ยังได้ โดยสถิติระบุว่าเขาสามารถทำแอสซิสต์ได้ถึง 7 ครั้ง และ 6 ครั้งมาจากการเล่นในตำแหน่งหน้าต่ำ และเปอร์เซ็นต์ความแม่นยำในการส่งบอลอยู่ที่ 72.5% ส่วนการเล่นเป็นตัวรุกริมเส้นเราอาจจะได้เห็นกันในหลาย ๆ จังหวะที่แวร์เนอร์สามารถเล่นงานฟูลแบ็กทั้งซ้ายขวาของคู่แข่งจนปั่นป่วนไม่เว้นแม้แต่ เบนชาแม็ง ปาวาร์ ของบาร์เยิร์น มิวนิค

การทุ่มทุนของเชลซีในครั้งนี้ ซึ่งถือว่าไม่ได้แพงมากนักเมื่อเทียบกับศักยภาพของแวร์เนอร์และฐานะการเงินของเชลซี น่าจะทำให้แฟรงค์ แลมพาร์ด ได้ใช้ประโยชน์แวร์เนอร์อย่างเต็มที่ และเพิ่มความหลากหลายให้แนวรุกเชลซี ขึ้นมากพอสมควร สิ่งที่สำคัญคือตัวแวร์เนอร์จะสามารถปรับตัวเข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้เร็วขนาดไหน ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญมาก เพราะยิ่งปรับตัวได้เร็วเท่าไหร่ เขี้ยวเล็บใหม่ของสิงห์บุคคลนี้ก็จะได้ขย้ำเหล่าแนวรับคู่ต่อสู้ได้เร็วแค่นั้น และจะช่วยยกระดับให้เชลซีได้ลุ้นในเป้าหมายใหญ่ได้ไกลกว่าเดิม


บทสรุป 4 ลีกดังยุโรป ได้แชมป์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ได้แชมป์ไปกันครบเรียบร้อยแล้วสำหรับลีกดังลีกใหญ่ของยุโรป ไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีกอังกฤษ บุนเดสลีกาเยอรมัน ลาลีกา สเปน และกัลโช่ ซีรี่เอ อิตาลี ที่กลับมาฟาดแข้งกันต่อหลังจากพักเบรกเนื่องจากสถานการณ์โควิด -19 ที่น่าสนใจคือเมื่อได้แชมป์และปิดฤดูกาลเป็นที่เรียบร้อยบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ก็จะกลับมาเตะในฟุตบอลถ้วยยุโรปกันต่อ ก่อนที่จะทยอยกันกลับมาเปิดฤดูกาลอีกครั้งก็ถือเป็นกำไรของแฟนบอลที่จะได้มีฟุตบอลดูกันตลอด

เยอรมัน อิตาลี แชมป์วังวลเดิม สเปนแชมป์เปลี่ยนมือ อังกฤษ ลิเวอร์พูลสร้างประวัติศาสตร์         

คงจะมีเพียงแค่พรีเมียร์ลีกเท่านั้นที่ทีมแชมป์ดูจะมีสีสันเนื่องจากเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูล กับการรอคอยมานาน 30 ปี ทำให้บรรดาเดอะค็อปทั่วโลกต่างพากันฉลองกันยกใหญ่ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทยที่ต่างพากันขึ้นรถแห่แชมป์กันอย่างถ้วนหน้า ส่วน บุนเดสลีกา กับ กัลโช ซี่รี่เอ ก็ยังคงเป็นเจ้าเดิม บาร์เยิร์น มิวนิค และ ยูเวนตุส เจ้าเก่า ยังไร้เทียมทาน ไม่มีใครมาล้มได้ จนบางที อาจจะสร้างความน่าเบื่อให้กับฟุตบอลทั้ง 2 ลีกนี้ก็ได้ กับการที่เล่นยังไงก็ยังไม่มีทีมไหนที่จะสามารถสร้างทีมให้มีความทัดเทียมกับพวกเขาได้ ส่วนลาลีกาสเปน ฤดูกาลนี้ แชมป์ตกเป็นของเรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของ ซีเนอดีน ซีดาน ที่สามารถแย่งแชมป์มาจากบาเซโลน่าได้ โดยในฤดูกาลนี้มาดริดทำแต้มห่างบาเซโลน่าถึง 5 คะแนน ถือเป็นความสำเร็จของราชันชุดขาวไป ส่วนบาเซโลน่าที่ดูจะมีปัญหานักเตะเริ่มโรยรา ในฤดูกาลหน้าอาจจะต้องมีการผ่าตัดทีมชุดใหญ่ไม่เว้นแม้แต่ผู้จัดการทีม

จบบอลลีก เปลี่ยนบรรยากาศไปฟาดกันในถ้วยยุโรป

หลังจากจบฤดูกาลภายในลีกของแต่ละชาติแล้ว บรรดายักษ์ใหญ่ของแต่ละลีกก็จะกลับมาฟาดแข้งกันในถ้วยสโมสรยุโรป ทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก และ ยูโรป้าลีก ซึ่งขณะนี้อยู่ในเส้นทางรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 ทางยูฟ่าได้กำหนดโปรแกรมการแข่งขันมาแล้วโดยถ้วยแชมเปี้ยนลีก จะเตะกันในวันที่ 7-8 สิงหาคมนี้ โดยยึดเตะที่รังเหย้าของทีมเจ้าบ้านตามเดิม โปรแกรมจะประกอบด้วย ยูเวนตุส-โอลิมปิก ลียง, แมนเชสเตอร์ ซิตี้-เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิก-เชลซี และ บาร์เซโลนา-นาโปลี

ส่วนถ้วยยูโรปา ลีก จะแข่งขันกันช่วงวันที่ 5-6 สิงหาคม ประกอบด้วย ชัคตาร์ โดเน็ทส์ค-โวล์ฟสบวร์ก, ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน-เรนเจอร์ส, วูล์ฟแฮมป์ตัน-โอลิมเปียกอส, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด-ลาสค์ ลินซ์, บาเซิล-ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต, เอฟซี โคเปนเฮเกน-อิสตันบูล บาซัคเซฮิร โดยมีอีกสองคู่ที่ต้องไปหวดแข้งที่สนามกลางในเยอรมันแบบนัดเดียว เนื่องจากยังไม่เริ่มแข่งขันตั้งแต่เกมนัดแรก นำโดย เกตาเฟ-อินเตอร์ มิลาน และ โรมา-เซบียา

ถือว่าเป็นสีสันใหม่และความยากลำบากของวงการฟุตบอลเลยก็ว่าได้สำหรับการที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด -19 ระบาดไปทั่วโลก แต่เห็นได้ว่าถึงแม้เชื้อโรคจะร้ายแรงเพียงใดก็ไม่อาจทำลายสีสันของเกมฟุตบอลไปได้เลย เพราะเมื่อมนุษย์เรามีใจรักในเกมฟุตบอลก็ย่อมต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีเกมฟุตบอลแข่งขันและได้รับชมกันต่อไป


โอกาสคว้าแชมป์ยูโรป้าลีก สมัยที่ 2 ของปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

เมื่อพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019-2020 ปิดฉากรูดม่าน ปิดฤดูกาลไปแล้วบรรดาทีมที่อยู่ในเส้นทางฟุตบอลยุโรปก็จะกลับมาฟาดแข้งในฟุตบอลถ้วยยุโรปกันอีกครั้งหลังจากหยุดพักจากสถานการณ์โควิด -19 เช่นเดียวกันกับปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่จะกลับมาฟาดแข้งในรายการยูโรป้า ลีก อีกครั้ง

สถานการณ์ ณ ขณะนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ในเส้นทางรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่ 2 โดยนัดแรกสามารถบุกไปเอาชนะลินซ์จากออสเตรียได้ถึง 5-0 ทำให้สถานการณ์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ณ ขณะนี้ ถือว่ามีโอกาสเข้ารอบต่อไปสดใสพอสมควร แล้วจะมีโอกาสแค่ไหนที่พวกเขาจะกรุยทางไปคว้าแชมป์รายการนี้อีกครั้ง

มองเส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ต้องถือว่ามองข้ามไปที่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเลยก็ว่าได้สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยขณะนี้ ยูฟ่าได้มีการประกบคู่และโปรแกรมการแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นต้นไปเรียบร้อยแล้ว โดยรอบ 8 ทีมสุดท้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดซึ่งน่าจะเข้ารอบแน่นอนแล้วจากผลชนะในนัดแรก 0-5 จะเข้าไปพบกับผู้ชนะระหว่าง อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ (ตุรกี) และ เอฟซี โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก) ซึ่งถ้ามองตามคุณภาพของทีมต้องบอกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะผ่านทั้งผู้ชนะของคู่นี้ได้แบบสบาย ส่วนในรอบรองชนะเลิศ ก็มีโอกาสที่จะพบกับ ผู้ชนะระหว่างในรอบ 16 ทีมคู่ระหว่างโอลิมเปียกอส (กรีซ) / วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (อังกฤษ) ซึ่งจะมาพบกับคู่ชนะระหว่าง เซบีย่า (สเปน) / โรม่า (อิตาลี) ในรอบ 8 ทีม ซึ่งถ้ามองตรงนี้ ทีมที่น่าจะมาพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในรอบรองชนะเลิศมีความเป็นไปได้ทั้ง วูล์ฟแฮมตัน เซบีย่า และโรม่า ซึ่งถ้ามองประสบการณ์ในถ้วย ยูโรป้าแล้ว เซบีย่าน่าจะเป็นทีมที่ได้เปรียบที่สุด ส่วนอีกสายจะเป็นการเจอกันของ

คู่ที่ 1 – โวล์ฟสบวร์ก (เยอรมนี) / ชัคห์ตาร์ โดเน็ตส์ค (ยูเครน) พบ ไอน์ทรัคท์ แฟร้งค์เฟิร์ต (เยอรมนี) / เอฟซี บาเซิ่ล (สวิตเซอร์แลนด์)

คู่ที่ 3 – อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) / เคตาเฟ่ (สเปน) พบ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) / ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (เยอรมนี)

ในส่วนของสายนี้ต้องบอกว่ามีความสูสีกันหมดซึ่งถ้าแมนฯ ยู มีโอกาสเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศก็จะเป็นคู่ชิงที่น่าจะสูสีพอสมควร

ตัวแปรสำคัญในการเป็นแชมป์สมัยที่ 2 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดน่าจะอยู่ที่รอบรองชนะเลิศ ซึ่งมองว่าเซบีย่าน่าจะเป็นทีมที่อันตรายที่สุด เพราะเคยเขี่ยแมนฯยู ตกรอบมาแล้วในหลายปีก่อน แต่เมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ถ้าโซลชาวางแท็กติคที่ดี ไม่มีผู้เล่นตัวหลักเจ็บเชื่อว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดน่าจะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปได้ ส่วนถ้ามีโอกาสเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศแล้ว ถึงตอนนั้นเจอใครก็คงเหมือนกัน ระดับนักเตะสายพันธ์อสูรแล้ว ขอแค่ตัวหลักอยู่กันครบน่าจะคว้าแชมป์ได้ไม่ยาก


สงครามกุหลาบประวัติศาสตร์อังกฤษ เกี่ยวพันกับคู่แค้นในพรีเมียร์ลีกได้อย่างไร

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับทีมยูงยอง ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่สามารถเลื่อนชั้นกลับมาสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ และเมื่อพูดถึงลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมคู่แค้นตลอดกาลของพวกเขาก็คงเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งทุกครั้งที่ทั้งสองทีมมีคิวต้องพบกันสำนักข่าวต่างประเทศ รวมถึงแฟนบอลไทยหลายคนที่ติดตามฟุตบอลอังกฤษมายาวนานก็จะเรียกแมตซ์ที่ทั้งคู่พบกันว่าแมทซ์สงครามกุหลาบ ซึ่งแฟนบอลรุ่นใหม่หลายคนอาจไม่เข้าใจว่าสงครามกุหลาบคืออะไร ทำไมถึงมีกุหลาบเข้ามาเกี่ยวข้องกับเกมฟุตบอล

สงครามดอกกุหลาบ (Wars of the Roses) เป็นสงครามราชวงศ์ที่ผู้สนับสนุนราชวงศ์แพลนแทเจเนตสองสายที่เป็นคู่แข่งชิงราชบัลลังก์อังกฤษกัน ได้แก่ ราชวงศ์แลงแคสเตอร์และราชวงศ์ยอร์ก (ซึ่งสัญลักษณ์ตราประจำตระกูล คือ ดอกกุหลาบสีแดงและสีขาวตามลำดับ) ทั้งสองฝ่ายรบกันเป็นช่วงห่าง ๆ กันระหว่างปี ค.ศ. 1455 ถึง 1485 และผู้ชนะในสงครามครั้งนี้ได้แก่เฮนรี่ ทิวดอร์แห่งราชวงศ์แลงคาสเตอร์

แล้วสงครามกุหลาบเกี่ยวอะไรกับทีมฟุตบอล

ในความเป็นจริงระยะเวลาระหว่างสงครามกุหลาบครั้งนั้นห่างกันกับโลกของฟุตบอลมาก แต่ถูกนำมาโยงกับทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีก 2 ทีม คือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและลีดส์ ยูไนเต็ด เนื่องมาจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นเป็นทีมที่ก่อตั้งขึ้นในแถบแลงคาเชียร์ และใช้สีประจำสโมสรเป็นสีแดงซึ่งไปตรงกับราชวงศ์แลงคาสเตอร์ที่อาศัยอยู่แถบนั้นเช่นเดียวกันและใช้สัญลักษณ์ประจำตระกูลและธงในการออกรบเป็นดอกกุหลาบสีแดง ส่วนลีดส์ ยูไนเต็ดเป็นทีมที่ก่อตั้งขึ้นแถบยอร์คเชียและใช้สีประจำสโมสรเป็นสีขาวรวมทั้งตราสโมสรก็ยังมีดอกกุหลาบสีขาวซึ่งก็ตรงกันกับราชวงศ์ยอร์ก ที่อาศัยอยู่แถบนั้นและใช้สัญลักษณ์ประจำตระกูลและธงในการออกรบเป็นดอกกุหลาบสีขาว เมื่อทั้งสองทีมมีคิวต้องฟาดแข้งกันก็มักจะถูกโยงถึงประวัติศาสตร์เรื่องนี้โดยเรียกเกมการแข่งขันนี้ว่า “แมตซ์สงครามกุหลาบ”

ไฟสงครามที่เจ็บแสบในโลกของฟุตบอล

ไฟประวัติศาสตร์อาจเป็นแค่เรื่องการสร้างสีสันในเกมฟุตบอลเท่านั้น แต่ชนวนที่อาจทำให้เกิดประเด็นเจ็บแสบในเรื่องของฟุตบอลน่าจะอยู่ที่การแย่งชิงตัวผู้เล่นคนสำคัญของทีมกันมากกว่า โดยเฉพาะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่มักเป็นฝ่ายใช้เงินตราในการแย่งชิงผู้เล่นคนสำคัญของลีดส์ ยูไนเต็ด มาเป็นผู้เล่นในตำนานของตน เริ่มตั้งแต่ อิริค คันโตน่า ที่กลายเป็นกับตันทีมในตำนานของปีศาจแดง ต่อมาก็เป็น ริโอเฟอร์ดินาน ปราการหลังเจ้าของสถิติค่าตัวแพงที่สุดในขณะนั้น ที่ท้ายที่สุดก็กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดประสบความสำเร็จมากมาย และคนสุดท้ายก่อนลีดส์จะตกชั้นไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังคว้าตัวอลัน สมิธ ยอดกองหน้าของทีมยูงทองมาอีก 1 คน ถึงแม้รายนี้จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรแต่ก็สร้างความเจ็บแสบให้กับสาวกทีมยูงทองพอเป็นอย่างมาก

ฤดูกาล 2020-2021 ลีดส์ ยูไนเต็ดจะกลับมาสู่เวที พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง เมื่อมีคิวต้องฟาดแข้งกับปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คงไม่วายถูกนำไปพาดพิงกับสงครามกุหลาบอีกเช่นเคย และการฟาดแข้งของทั้งสองทีมก็คงมันเต็มอัตราศึกเหมือนเช่นเคย แต่ไม่ว่าจะอย่างไร การกลับมาของลีดส์ในครั้งนี้ ก็จะทำให้พรีเมียร์ลีกฤดูกาลต่อไปมีมนต์ขลังขึ้นมาอีกเท่าตัว

Category : ข่าวกีฬา

Tag : ลีดส์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, สงครามกุหลาบ


ส่องอนาคตเหล่าแข้งสำรองแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

หลังช่วงพักเบรกหนีโควิด -19 ถือว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดโชว์ฟอร์มได้ดีเลยทีเดียว และโอเล กุนน่า โซลชาสามารถหาผู้เล่น 11 ตัวจริงได้แล้ว จากการมาของบรูโน่เฟอร์นันด์ และการหายเจ็บกลับมาของพอล ป็อกบา อีกทั้งการโชว์ฟอร์กระฉูดของเจ้าหนู เมสัน กรีนวู้ด ทำให้เหล่าบรรดาตัวผู้เล่นสำรองคนอื่น ๆ ที่ก่อนหน้านี้ผลัดกันลงสนามพร้อมกับเสียงด่าของเหล่าแฟนบอล แทบจะไม่มีอนาคตกับทีมเลยทีเดียว และเมื่อถึงช่วงปิดฤดูกาลรวมทั้งการเปิดตลาดซื้อขายลองมาดูว่าเหล่าผู้เล่นสำรองของแมนฯยู ใครจะยังยู่กับทีมต่อไปหรือใครจะมีโอกาสย้ายไปร่วมทีมใหม่บ้างลองมาวิเคราะห์กัน

เซอร์คิโอ โรเมโร่

ผู้รักษาประตูสำรองชาวอาเจนติน่า ที่ถือว่าเป็นมือกาวชั้นดี เป็นที่ไว้ใจทุกครั้งเมื่อมีโอกาสลงเฝ้าเสาให้แมน ฯ ยู ต้องถือว่าเค้ามีความอดทนมากในการเป็นมือสองในถิ่นโอลเทรฟฟอร์ด แม้ในขณะที่เดวิด เดเกอา ฟอร์มตก เขาก็ยังไม่ได้รับโอกาส รวมถึงมีข่าวที่จะดึงทางด้านดีน เอนเดอร์สันกลับมาแย่งชิงตำแหน่งกับเดเกอา และประกอบกับขณะนี้เขาได้รับความสนใจจากลีดส์ ยูไนเต็ดทีมใหม่ป้ายแดงในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า เชื่อว่าถ้าเป็นความจริงก็คงถึงเวลาที่โรเมโร่จะออกไปเป็นมือ 1 กับทีมอื่นได้แล้ว แม้นว่าหลายคนจะเสียดายในความสามารถเขาก็ตาม

ฆวน มาต้า

เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นทำให้แทบไม่เหลือความเร็วหรือความคล่องตัวของมาต้าให้เห็นมานานแล้ว ประกอบกับสไตล์การเล่นที่ดูจะขัดตาขัดใจแฟนผีหลาย ๆ คนกับการที่ชอบม้วน ชอบจ่ายบอลสั้น ๆ ที่แทบจะไม่มีประโยชน์ อีกทั้งเมื่อได้รับคำสั่งให้เล่นปีกขวาก็ไม่เคยที่จะอยู่ในตำแหน่งปีกขวาเลย อีกทั้งฟอร์มของเมสัน กรีนวู้ดที่พุ่งขึ้นมา กับการมาของ บรูโน่ ทำให้น่าจะไม่มีที่ว่างสำหรับมาต้าแล้ว โดยปัจจุบันมาต้าอายุ 33 ปี เหลือสัญญากับแมนฯยูฯถึงปี 2021 ทำให้มีโอกาสไม่น้อยที่มาต้าจะเป็นอีก 1 คนที่จะลาปีศาจแดงไป โดยทีมที่มีข่าวสนใจได้แก่ เฟเนห์บาเช

ดีเอโก้ ดาโลต์

ฟูลแบ็กวัย 21 ปี แทบจะไม่มีโอกาสได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เลย แม้กระทั่งในช่วงที่ลุค ชอร์ และ แบรนดอน วิลเลี่ยมบาดเจ็บ หลายฝ่ายมองว่าน่าจะถึงคิวของดาโลต์ แต่โซลชากลับเลือกใช้งานทีโมที โฟซูเมนซ่าแทนเขา จึงเป็นคำถามว่าอนาคตของดาโลต์จะเป็นอย่างไรต่อไปจะยังคงอยู่ในแผนการทำทีมของโซลชาหรือไม่ แต่เนื่องด้วยอายุที่ยังน้อย ต้นสังกัดอาจจะปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวเพื่อพิสูจน์ความสามารถอีกซัก 1 ฤดูกาลก็ไม่น่าเกลียดอะไร

เจสซี่ ลินการ์ด

เลือดเนื้อเชื้อไขของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่างแท้จริง และดูเหมือนจะมีแววโชว์ฟอร์มได้ดี แต่สุดท้ายก็ดูเหมือนจะไม่เข้าที่เข้าทางและคงพัฒนาไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว แต่ถึงอย่างไรบุคลิกในสนามของเขายังคงมีความมุ่งมั่นตั้งใจและทุ่มเททุกวินาทีที่ลงเล่นให้กับปีศาจแดง เห็นตัวอย่างได้ชัดในเกมสุดท้ายกับเลสเตอร์ ซิตี้ ที่เขาวิ่งไปบีบผู้รักษาประตูคู่แข่งจนสามารถทำประตูได้ จังหวะแบบนี้คงหาจากผู้เล่นคนอื่นไม่ได้อีกแล้ว ถ้าตั้งสมาธิ เรียกความมั่นใจกลับมาดี ๆ เขาน่าจะเป็นตัวสำรองที่ดีของทีมได้ จึงเชื่อว่า กุนซือโซลชาน่าจะยังเก็บเขาไว้ใช้งานต่อไป

อันเดรส เปเรยร่า

นักเตะลูกหม้อของทีมอีกคนและเป็นมิดฟิลด์เลือดแซมบ้า ที่แทบจะไม่เคยเห็นลีลาแซมบ้าในตัวเขาเลย โดยที่แมน ฯ ยู เคยปล่อยตัวเขาไปหาประสบการณ์กับทีมระดับลาลีกา อย่างบาเลนเซียเพื่อที่จะหวังใช้ประโยชน์จากตัวเขา แต่เมื่อเรียกตัวกลับมาใช้งานก็ไม่สามารถหวังพึ่งพาเขาได้เลย และเชื่อว่าคงหมดโอกาสสำหรับเปเรยร่าแล้ว และทีมคงหาทางที่จะขายตัวเขาออกไป บางทีเปเรยร่าอาจจะไปประสบความสำเร็จกับทีมอื่นก็ได้

เห็นได้ชัดในยุคของเซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดประสบความสำเร็จจากตัวจริงที่แข็งแกร่งและเหล่าตัวสำรองที่มีทีเด็ด ซึ่งแน่นอนทีมที่ดีต้องมีตัวสำรองที่พร้อมจะลงมาเพื่อพลิกสถานการณ์ให้กับทีมได้ จุดนี้โซลชาน่าจะรู้ดี เพราะเขาก็เคยเป็นตัวสำรองชั้นยอดของปีศาจแดงเช่นกัน และเชื่อว่าในฤดูกาลหน้าโซลชาคงจะเร่งสร้างขุมกำลังที่มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเพื่อสู้ศึกในทุกรายการ


เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ ยอดศูนย์หน้าคนใหม่ของวงการฟุตบอล

แท็กติคฟุตบอลในยุคปัจจุบันนับวันมีแต่จะเน้นการครองบอลในแดนกลาง หรือเล่นเกมรับแล้วสวนกลับทำให้แต่ละทีมมีกองหน้าธรรมชาติประจำทีมน้อยมาก ทำให้ในยุคนี้เมื่อนึกถึงชื่อของกองหน้าธรรมชาติต้องบอกว่ามีน้อยมากจริงๆยิ่งถ้าจะนึกถึงศูนย์หน้าระดับแนวหน้าของโลกแล้ว ที่ชัดเจนก็คงจะเป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ของบาร์เยิร์น มิวนิค แฮรี่ เคน จากไก่เดือยทอง ท็อตแน่มฮอต สเปอร์ หลุย ซัวเรส ของบาร์เซโลน่า เซอร์จิโอ กุน อเกวโร่ ของแมนฯซิตี้ คาริม เบนเซม่า ของราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ซึ่งตองบอกว่าเกือยทั้งหมดนี้ก็ถึงช่วงสุดท้ายของอาชีพค้าแข้งแล้ว คงจะเหลือ แฮรี่ เคน ที่จะพอโลดแล่นเพื่อกระหน่ำประตูในฐานะกองหน้าไปได้อีกหลายปี ลองคิดดูถ้าวงการฟุตบอลขาดยอดกองหน้าดาวยิง ไว้คอยสร้างสีสัน วงการฟุตบอลจะดูเสียความสมดุลมากขนาดไหน

ในฤดูกาลนี้ (2019/2020) มีกองหน้าดาวรุ่งคนใหม่ที่หลายทีมให้ความสนใจ โดยเฉพาะทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีกุนซือเป็นอดีตยอดศูนย์หน้าชาวนอร์เวย์สัญชาติเดียวกับดาวเตะผู้นี้ แต่สุดท้ายดาวรุ่งดวงใหม่รายนี้ก็เลือกที่จะปฏิเสธทีมจากอังกฤษ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามและหันไปซบเสือเหลืองโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมในบุนเดสลีกาของเยอรมัน แน่นอนนักเตะผู้นี้คือ เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ ศูนย์หน้าจากเรดบูล ซัลบวร์ก ทีมในลีกออสเตรีย

โชว์ฟอร์มเปี้ยงปร้างตั้งแต่นัดแรก ยิงประตูเป็นกอบเป็นกำในฤดูกาลแรก

เพียงแค่นัดแรกเจ้าหนูวัย 19 ปี ก็แผลงฤทธ์ให้เห็นแล้วในเกมที่ดอร์ทมุนด์ต้นสังกัดใหม่บุกไปเยือนเอาส์บวร์กและโดนนำไปก่อน 3-1 กุนซือลูเซียน ฟาร์ฟก็ตัดสินใจส่งเจ้าหนูฮาแลนด์ลงมายืนเป็นศูนย์หน้า เขาใช้เวลาเพียง 3 นาที ก็สามารถคลำเป้าเจอ และใช้เวลาทั้งหมด 20 นาที สามารถทำแฮตทริกได้ ช่วยให้ดอร์ทมุนดฺพลิกแซงทีมเจ้าบ้าน 3-5 อย่างน่าเหลือเชื่อ ด้วยความคมกริบในการยิงและการหาตำแหน่งรวมทั้งรูปร่างที่สูงใหญ่และมีความเร็ว ฮาแลนด์ทำประตูให้ดอร์ทมุนด์ในฤดูกาลแรกไปทั้งสิ้น 16 ประตูจากการลงเล่น 18 นัดทุกรายการ

เตรียมพร้อมวัดความคมกับดาวยิงรุ่นพี่ของทีมคู่แข่ง

นับตั้งแต่ดอร์ทมุนด์เสียโอบาเมยองไปให้กับอาร์เซนอล ถือว่าบุนเดสลีกาไม่มีดาวยิงคนไหนที่จะมาแย่งตำแหน่งดาวซัลโวกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เลยแต่การมาของเออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ น่าจะทำให้การแข่งขันในเรื่องของดาวซัลโวประจำลีกบุนเดสลีกา มีชีวิตชีวาขึ้น จากอายุที่ยังน้อยของฮาแลนด์ ความคม การหาตำแหน่งที่ดี รูปร่างสูงใหญ่เล่นลูกกลางอากาศได้ รวมทั้งมีความเร็ว น่าจทำให้อนาคตของเขาในเวทีบุนเดสลีกาแลดูสดใส พร้อมที่จะสะสมประตูเพื่อวัดรอยกับรุ่นใหญ่อย่างเลวานดอฟสกี้ได้สบาย

การได้ตัวเจ้าหนูเฮอร์ริ่ง ฮาแลนด์มาของดอร์ทมุนด์เหมือนกับการถูกรางวัลที่ 1 เลยทีเดียว เพราะนอกจากจะได้ใช้บริการฮาแลนด์ในการสู้ศึกเพื่อแย่งแชมป์ลีกจากบาร์เยิร์น มิวนิค แล้วผู้เชี่ยวชาญเรื่องฟุตบอลจากมั่วสารทิศต่างมองว่านี่แค่จุดเริ่มต้นของการเป็นสุดยอดกองหน้าของฮาแลนด์เท่านั้น และเชื่อว่าในอนาคต เออริ่ง ฮาแลนด์ จะกลายเป็นสุดยอดกองหน้าของวงการลูกหนังอย่างแน่นอน


ว่ายน้ำ กีฬาที่ไม่ได้มีดีแค่ความสนุก แต่ยังได้ประโยชน์มากมายกว่าที่หลายคนเข้าใจ

ความทรงจำของใครหลายคน การว่ายน้ำเปรียบเสมือนการไปเล่นมากกว่าจะไปออกกำลังกาย เพราะไม่มีปัญหาเรื่องเหงื่อออก แถมยังเย็นชื่นใจ เหมาะกับอากาศประเทศไทยเรามาก ๆ ซึ่งตามจริงแล้วกีฬาว่ายน้ำไม่ได้มีดีแค่เพียงให้ความเพลิดเพลินเท่านั้น แต่ในแง่ของประโยชน์ก็ยังให้อะไรหลากหลายมากกว่าที่หลาย ๆ คนเชื่อ เรียกได้ว่าเป็นกีฬาที่ครบรส ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันมากเลยทีเดียว

โดยกีฬาว่ายน้ำถ้าอยากจะให้ได้ประโยชน์จริง ๆ เริ่มต้นจากตัวคุณต้องเริ่มว่าย ไม่ใช่แค่เพียงลงไปจุ่มตัวเท่านั้น ซึ่งหลักการการว่ายน้ำนั้นมีด้วยกันหลายสไตล์ หลายท่า เช่น ฟรีสไตล์ กบ ผีเสื้อ กรรเชียง เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่แล้วท่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คงจะเป็นท่าฟรีสไตล์ (Free Style) เนื่องจากเป็นท่าที่ง่ายที่สุด จับจุดได้ไม่ยาก จะผสมผสานการดำน้ำด้วยก็ได้แล้วแต่ความถนัด

ซึ่งประโยชน์ของการว่ายน้ำไม่ว่าจะด้วยท่าใดก็ตาม หากทำอย่างต่อเนื่องจะสามารถช่วยในเรื่องการเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี โดยปกติแล้วหากประเมินด้วยสายตา การว่ายน้ำดูไม่เหนื่อย เพราะอยู่แต่ในน้ำจึงไม่มีเหงื่อให้เห็น แต่กีฬาว่ายน้ำเป็นกีฬาที่ต้องใช้พลังกายในการขับเคลื่อนตัวต้านโมเลกุลของน้ำอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นมวลที่หนาแน่นกว่าร่างกายของมนุษย์ เราจึงสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ ว่า เมื่อเวลาที่ร่างกายอยู่ในน้ำ เราจะขยับเขยื้อนได้ช้าลงได้นั่น

อีกทั้งการว่ายน้ำยังเป็นการฝึกปอดให้มีความแข็งแรง เนื่องจากการว่ายจำเป็นที่จะต้องกักเก็บอากาศไว้ในปอด และคอยควบคุมการหายใจให้ดีในขณะที่กำลังว่ายน้ำอยู่ เพราะถ้าหากควบคุมผิดพลาดก็อาจทำให้มีอากาศเหลือไม่พอขณะที่ดำหรือว่ายน้ำอยู่ อีกทั้งยังเสี่ยงที่น้ำจะเข้าจมูก เข้าปากอีกด้วย

ที่สำคัญการว่ายน้ำยังทำให้ผู้เล่นได้ใช้ร่างกายทุกสัดส่วน นับว่าเป็นกีฬาหนึ่งในไม่กี่ประเภทที่สามารถทำให้ร่างกายได้ขยับเคลื่อนไหวทุกส่วน ตั้งแต่ลำคอไปยันปลายเท้า แฟน ๆ ของ VWIN คนไหนที่ยังหากิจกรรมออกกำลังกายดี ๆ ไม่ได้ การว่ายน้ำก็ตอบโจทย์มาก ๆ อีกทั้งยังไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บเหมือนการวิ่งหรือกระโดดเชือกด้วย เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าความหนาแน่นในโมเลกุลน้ำ จะช่วงพยุงร่างกายรวมไปถึงข้อต่าง ๆ ในร่างกายอยู่ตลอดเวลา เราจึงไม่จำเป็นต้องกระทับหรือกระแทกข้อต่าง ๆ ในร่างกายกับอะไรเลย

ปัจจุบันสระว่ายน้ำมีให้เราเห็นเยอะแยะมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นในหมู่บ้านหรือตามคอนโดทั่ว ๆ ไป ที่สำคัญยังมีให้เลือกหลายสระ ไม่ว่าจะเป็นสระคลอรีน สระเกลือ สระน้ำจืด แล้วแต่จะเลือกได้ตามใจชอบ เรียกได้ว่าเป็นกีฬาที่ได้ประโยชน์รอบด้าน แถมยังให้ความสนุก สามารถทำได้นาน ๆ เพราะไม่มีความร้อนมาเป็นอุปสรรคขัดขวาง รู้แบบนี้แล้วหลายคนก็คงอยากว่ายน้ำขึ้นมาเลยใช่ไหม


ความจริงที่ท่านอาจไม่เคยรู้ เกี่ยวกับกีฬาว่ายน้ำ

กีฬาว่ายน้ำ เป็นกีฬาที่ต้องใช้ความอดทนอดกลั้นในการซ้อมและการแข่งขันเป็นอย่างมาก เพราะว่ากีฬาชนิดนี้มีสนามแข่งที่ไม่ใช่ธรรมชาติของมนุษย์ กล่าวคือ มีสนามแข่งเป็นน้ำนั่นเอง และชีวิตปกติของมนุษย์แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์เลยก็ว่าได้ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บกบน ทำให้การใช้ชีวิตในน้ำนั้นอาจไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นกว่าจะมาเป็นนักกีฬาแข่งขันว่ายน้ำได้ จึงต้อง ผ่านการฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี ทั้งการควบคุมการหายใจใต้น้ำและจังหวะการหายใจเมื่อโผล่พ้นน้ำนั่นเอง จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่ากีฬาว่ายน้ำเป็นกีฬาที่ไม่ธรรมดา และด้วยความที่ไม่ธรรมดานี่แหละ จึงทำให้ทางเราอยากพาท่านผู้อ่านมาไขความลับสุดแปกลของกีฬาชนิดนี้ หากพร้อมแล้ว ก็ตามมาอ่านได้เลย

5 ความจริงเกี่ยวกับกีฬาว่ายน้ำ

  1. Fanny Durack คือ นักว่ายน้ำหญิงเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของโลก กีฬาว่ายน้ำถูกบรรจุให้เป็นหนึ่งในกีฬาโอลิมปิก เมื่อปี ค.ศ. 1908 โดยให้สิทธิ์แค่เพศชายเท่านั้นที่ทำการลงแข่งขันได้ และต่อมาในปี ค.ศ. 1908 ทางโอลิมปิกก็ได้บรรจุกีฬาว่ายน้ำหญิงลงไปด้วย และคนที่สามารถคว้าเหรียญทองไปได้เป็นคนแรกก็คือ Fanny Durack นักกีฬาว่ายน้ำหญิงจากประเทศออสเตรเลีย
  2. Alzain Tareq คือ นักกีฬาว่ายน้ำหญิงที่มีอายุน้อยที่สุด ที่เข้าร่วมการแข่งขันระดับโลก ด้วยวัยเพียง 10 ขวบเท่านั้น และในปี ค.ศ. 2000 Michael Phelps เป็นชายชาวอเมริกันที่อายุน้อยที่สุดในการแข่งขันว่ายน้ำโอลิมปิกที่เมืองซิดนีย์  
  3.  ปัญหาที่นักว่ายน้ำมักจะพบบ่อย ๆ ในชีวิตประจำวัน คือ ปัญหาฟันสึกกร่อน เนื่องจากผิวฟันต้องสัมผัสกับคลอรีนในสระว่ายอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้นักว่ายน้ำแทบทุกคนประสบกับปัญหานี้ แต่ในปัจจุบันมีอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ฟันยาง เพื่อป้องกันคลอรีนกร่อนฟันในขณะอยู่ในสระ แต่ก็สามารถป้องกันได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
  4. โดยปกติคนเราสามารถกั้นหายใจในน้ำได้ประมาณ 30 วินาที แต่นักกีฬาว่ายน้ำที่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นระยะเวลานานสามารถกั้นหายใจในน้ำได้นานสูงสุดถึง 2 นาที แต่รู้หรือไม่ว่า เคยมีนักดำน้ำอิสระสามารถกั้นหายใจในน้ำได้นานถึง 10 นาที และที่น่าทึ่งสุด ๆ คือ มีนักดำน้ำอิสระอีกคนหนึ่งที่ชื่อว่า Stig Severinsen สามารถกั้นหายใจในน้ำได้นานถึง 22 นาที เป็นยังไงหละ แค่กั้นหายใจ 30 วินาทียังแทบขาดใจเลย แต่ Stig Severinsen สามารถกั้นหายได้นานที่สุดในโลกถึง 22 นาที ปอดของเขาไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมล่ะ
  5. กีฬาว่ายน้ำ เป็นกีฬาที่ต้องใช้ทุกสัดส่วนของร่างกาย ซึ่งจะแตกต่างจากกีฬาอื่น ๆ ที่เน้นใช้บางส่วนของร่างกายเท่านั้น เช่น กีฬาแบดมินตันที่เน้นใช้กำลังแขน หรือกีฬาฟุตบอลที่เน้นใช้กำลังขา เป็นต้น ดังนั้นแล้ว การว่ายน้ำอย่างต่อเนื่องจะทำให้กล้ามเนื้อของคุณแข็งแรงทุกสัดส่วนจริง ๆ นะ

ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับกีฬาว่ายน้ำเท่านั้น และหวังว่าข้อมูลข้างต้นจะทำให้ท่านได้รับความบันเทิงและความเพลิดเพลินในการอ่านจนอยากฝึกว่ายน้ำกันบ้าง