ผุดบัญชียางพารา ชาวสวนไชโยดังลั่น

                ยางพาราเป็นวัตถุดิบที่นำมาผลิตสินค้า มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการส่งออกไปยังต่างประเทศด้วย สินค้าที่ผลิตขึ้นมาจากยางพาราที่เรา ๆ ก็รู้จักมักคุ้นกัน ได้แก่ ยางรถยนต์ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับยางทุกชนิด มีการนำยางไปเป็นส่วนประกอบในการสร้างถนนเพื่อให้เกิดการใช้ยางพารา และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ทำไมเกษตรกรชาวสวนยาง จึงยังคงได้รับความเดือนร้อนจากปัญหาราคายางพาราตกต่ำทั้ง ๆ ที่ยางพาราก็ได้ถูกนำไปใช้อย่างล้นหลาม ด้วยเหตุที่ว่านี้ชาวสวนยางถึงกับมีการรวมตัวกันเพื่อล่ารายชื่อหวังปลดผู้บริหารออก มันเกิดขึ้นได้ยังไง?

เท่านั้นยังไม่พอ ช่องข่าวทางทีวียังมีการออกมาเปรียบเทียบราคายางพาราของปีที่ผ่านมา ก็ปรากฏชัดเจนแจ่มแจ้งว่า ราคายางพาราถูกลงอย่างมาก ลดลงถึง 20 กว่าบาท แล้วอย่างนี้ประชาชนจะไม่ลุกหือได้อย่างไร? และที่จริงแล้วปัญหาราคายางพาราตกต่ำถือเป็นปัญหาเรื้อรัง ยืดเยื้อมายาวนาน ประชาชนจึงได้รับความเดือดร้อนกันเรื่อยมา ประเทศไทยมีการปลูกยางพารารวมกันกว่า 10 ล้านไร่ คิดดูแล้วไม่น้อยทีเดียว และในสิบล้านไร่นี้ก็มีบทบาทช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยยังเดินอยู่ได้เช่นกัน แต่เจ้ากรรม ทั้ง ๆ ที่ให้ประโยชน์ต่อประเทศมากมาย กลับไม่ได้รับความสนใจ ไม่เห็นคุณค่าสักเท่าไร ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้รัฐบาลไม่อาจจะนิ่งนอนดูดายได้อีกต่อไป “เราต้องทำอะไรซักอย่าง เพื่อพี่น้องเกษตรกรชาวสาวยางของเรา!” และแล้วในที่สุด ก็เกิดเมกกะโปรเจค “ขึ้นบัญชียางพารา” แก้ปัญหายางราคาไร้ระเบียบ ฟังดูดีทีเดียว แต่จะได้ผลมากน้อยแค่ไหนลองรอลุ้นกันต่อไป ขอเตือนอย่าละสายตา!  สิ่งหนึ่งที่พอทำให้มั่นใจได้บ้างว่าราคายางพาราจะดีขึ้น และนั่นหมายถึงชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวสวนยางก็จะดีขึ้นด้วยคือ การขึ้นบัญชียางพารานั้นทำให้ยางพารากลายเป็นสินค้าที่มีการควบคุม จะมีมาตรการควบคุม เช็คสต็อก สามารถกำหนดราคาขั้นต่ำ ขั้นสูง ป้องกันการเล่นราคาจากพ่อค้าคนกลางหรือพ่อค้านอกรีตได้ โดยอยู่ภายใต้การกับกับดูแลอย่างใกล้ชิดของรัฐบาล สิ่งที่ตอกย้ำความมั่นนี้ก็เพราะมาตรการต่าง ๆ เหล่านี้ได้ถูกกำหนดลงในประกาศ “ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็หวังว่านับแต่นี้ต่อไปปัญหายางพาราคงทุเลาลงจนกะทั้งหมดไปซักที เกษตรกรชาวสวนยางเตรียมเฮได้เลย

เมื่อแก้ปัญหาอย่างหนึ่งได้ ปัญหาใหม่ก็มักจะเข้ามาแทนที่แบบไม่ได้รับเชิญ เศรษฐกิจโดยรวมของไทยในประเทศที่ผ่านมามีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น นักวิชาการต่างก็ให้ความเห็นไปทิศทางเดียงกันว่าจะดีขึ้น 4-5 % บ้าง บางท่านก็ว่ามากกว่านั้น เหตุเพราะภาคการส่งออกขยับตัวดีขึ้นแม้ว่าเงินบาทจะแข็งค่าไปหน่อยก็ตาม หุ้นไทยก็ดีขึ้น วิเคราะห์กันไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าคนไทยได้ประโยชน์ แต่สำหรับชาวสวนชาวไร่ทำไมยังไมรู้สึกว่าตัวเองสบายขึ้นซักทีนะ ราคาพืชผลทางการเกษตรก็ไม่ดี โดยเฉพาะมันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน อ้อย ข้าวโพด และเกษตรกรส่วนใหญ่ดำรงชีพด้วยการเพาะปลูกพืชเหล่านี้ พี่น้องชาวเกษตรกร…ได้โปรดจงเย็น ๆ รัฐบาลกำลังจะเข้ามาแก้ปัญหาให้เราแล้ว เห็นว่า ปี 61 ราคาพืชผลทางการเกษตรจะดีขึ้น อดทนอีกนิดนะพวกเรา