เทคโนโลยีอันล้ำสมัยทางด้านความงาม เนรมิตคนธรรมดา ให้สวยหล่อขึ้นได้จริงหรือ

เราจะเห็นว่า ในยุคปัจจุบันนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ต่างให้ความสำคัญกับบุคลิกภาพ รูปร่างหน้าตากันทั้งนั้น ยิ่งวิวัฒนาการทางด้านความงาม ที่ได้นำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาใช้ เกี่ยวกับการเสริมแต่งอย่างครบวงจร จึงทำให้คนที่มีรูปร่างหน้าตาธรรมดา ๆ ดูสวยดูหล่อขึ้นมาอย่างกับคนละคน ซึ่งแน่นอนค่าใช้จ่ายอาจจะสูง แต่สำหรับใครที่คิดว่ามันคือการลงทุนให้ตัวเองก็คงจะคุ้มค่า เพราะสิ่งที่พวกเค้าได้มามันคือความสุข ความมั่นใจ ที่จะดำเนินชีวิต ทั้งเอื้อประโยชน์ต่อหน้าที่การงาน เวลาพบปะผู้คนหรือลูกค้า บุคลิกภาพและรูปร่างหน้าตาที่ดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง ยิ่งยุคสมัยที่คนยึดติดในรูป การมีรูปร่างหน้าตาที่ดีจึงช่วยดึงดูดผู้คน ทำให้มีทั้งงาน เงิน ตามเข้ามามากมาย ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักเทคโนโลยีด้านความงามที่กำลังมาแรงในยุค 2019 นี้ เผื่อใครต้องการปรับปรุงรูปร่างหน้าตาให้ดีขึ้นก็สามารถพึ่งพาเทคโนโลยีที่ทันสมัยนี้ได้ มีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

เทคโนโลยียอดฮิตด้านความงามในยุค 2019

1.Hifu Lift เป็นเทคโนโลยีการนำคลื่น Ultrasound มาใช้ในการปรับรูปหน้าให้เรียวสวย และยกกระชับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ เพราะมันทำหน้าที่ไปกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินได้ลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของความหย่อนยานของใบหน้า เป็นนวัตกรรมที่ให้ผลเทียบเท่ากับการผ่าตัดดึงหน้า แต่ข้อดีกว่าคือไม่เจ็บ ไม่ต้องพักรักษาแผลจากการผ่าตัดค่าใช้จ่ายถูกกว่า ประหยัดเวลา และคลื่น Ultrasound ที่นำมาใช้ก็มีความปลอดภัยสูง ที่สำคัญมันเห็นผลทันทีหลังทำ เหมาะสำหรับหนุ่มสาวที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่ได้รูป ไม่กระชับ และมีริ้วรอย เพราะเทคโนโลยี Hifu Lift นี้จะไปช่วยยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้รูป ลดแก้ม ลดเหนียง ลดริ้วรอย อย่างได้ผลชัดเจน

2.การฉีดวิตามินผิว เป็นเทคโนโลยีการนำวิตามินที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ได้ผลิตขึ้นมาโดยทีมแพทย์เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ มีคุณสมบัติในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินให้กับผิว ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส เปล่งปลั่ง ดูมีน้ำมีนวล และไม่ไวต่อแดด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวคล้ำเสีย ต้องการดูแลเป็นพิเศษ หรือผู้ที่ต้องการมีผิวขาวใสอมชมพู

เทคโนโลยี Lipomassage คลินิกเสริมความงามที่ชื่อเสียงบางแห่ง ได้นำเครื่องมือตัวนี้เข้ามาจากต่างประเทศ ใช้กลไกการทำงานด้วยพลังงานธรรมชาติ เร่งการเผาผลาญไขมันตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และกระตุ้นให้ร่างกายขับของเสียออกมาทางเหงื่อ ปัสสาวะ ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายดี กระตุ้นการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนที่ลึกระดับโครงสร้างผิว ทำให้เผยผิวใหม่ที่เนียนกระชับ เฟิร์มขึ้น ข้อดีคือไม่เจ็บ ไม่ต้องนอนพักฟื้น และค่าใช้จ่ายถูกกว่าการดูดไขมันมาก

และนี่ก็คือคำตอบว่า เทคโนโลยีที่ทันสมัยเปลี่ยนคนธรรมดา ๆ ให้สวยหล่อขึ้นได้จริง ใครมีปัญหาความงามด้านไหน ต้องการมีรูปร่างหน้าตาให้ดีขึ้นอย่างไร ก็ลองศึกษาข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วน และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง เพื่อจะได้ตอบโจทย์ความงามได้ตรงจุดกับที่คุณต้องการ


อินเตอร์เน็ต หนึ่งในเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญทั่วโลกและสังคมไทย มากที่สุดในยุคปัจจุบัน

เมื่อพูดถึง อินเตอร์เน็ต หลาย ๆ คนก็คงคุ้นเคยกันดี เพราะในยุคปัจจุบันนี้ พูดได้เลยว่าน้อยคนนัก ที่จะไม่ใช้อินเตอร์เน็ต ในการทำธุรกิจ การเรียนการสอน การติดต่อสื่อสาร การเงิน การบันเทิง การค้นหาข้อมูล การช้อปปิ้งซื้อของ เอาง่าย ๆ ว่า มันกลายเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่สำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของเราทุกคนไปแล้ว แค่มีโทรศัพท์เครื่องเดียว ก็เหมือนมีเครื่องมือที่จะเนรมิตทุกอย่างได้ดังใจต้องการ เมื่อกล่าวมาถึงขนาดนี้หลายคนก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งเทคโนโลยีของ อินเตอร์เน็ตอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่เมืองไทย แต่ทั่วโลกเลยทีเดียว ที่ล้วนจำเป็นต้องใช้อินเตอร์เน็ต กันทั้งนั้น ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จัก ความหมายที่แท้จริง และบทบาทสำคัญของอินเตอร์เน็ต ที่มีต่อโลกและต่อประเทศไทยกัน

อินเตอร์เน็ต กับความหมายของมัน

อินเตอร์เน็ต มันคือ เครือข่ายของคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่สุด ที่เชื่อมโยงทุกเครือข่ายทั่วโลกเอาไว้ด้วยกัน เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ในการติดต่อสื่อสาร ทำธุรกิจร่วมกัน รวมถึงการทำธุรกรรมทางการเงิน การค้นหาแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยใช้ Protocol เป็นภาษาของการสื่อสารกันในระบบคอมพิวเตอร์

บทบาทสำคัญของ อินเตอร์เน็ต ต่อโลก และประเทศไทย

จะเห็นได้ว่าในหน่วยงานทุกหน่วยงาน ทั้งของรัฐและเอกชน รวมถึงสถาบันการศึกษา วงการบันเทิง บริษัท ห้างร้าน ทั่วโลก ได้นำอินเตอร์เน็ตเข้ามาใช้ในการทำงานกันทั้งนั้น ซึ่งบทบาทที่เราเห็นกันได้อย่างเด่นชัดมีดังนี้

1.สถาบันการศึกษา อินเตอร์เน็ตได้ถูกนำมาใช้ในการเรียนการสอนทุกระดับ ในการค้นคว้าหาข้อมูลที่สะดวกรวดเร็วมากขึ้น ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสถาบัน การเรียนผ่านระบบออนไลน์ ที่ช่วยลดเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และประหยัดเวลาในการเดินทาง

2.วงการบันเทิง จากระบบเดิม ๆ ที่วงการบันเทิงมีเพียง ทีวี วิทยุ การจัดคอนเสิร์ต ปัจจุบันได้นำ อินเตอร์เน็ตเข้ามาใช้ ที่สามารถทำให้มีผู้ชมได้ทั่วโลก ไม่จำกัดเฉพาะแค่ประเทศไทย

3.การทำธุรกิจ ปัจจุบัน ผู้ประกอบการ สามารถสร้างฐานลูกค้าได้กว้างไกลไปทั่วโลก จะเห็นว่าคนทั่วโลกส่วนใหญ่นิยมการ ช้อปปิ้งทางออนไลน์กันเป็นจำนวนมาก สร้างชื่อเสียงและรายได้ไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศไทยเหมือนเก่าก่อนแล้ว

4.วงการแพทย์ แม้แต่วงการแพทย์ ก็ยังนำเอาเทคโนโลยี ด้านอินเตอร์เน็ตมาใช้ในการค้นคว้าทดลอง พัฒนาสูตรยา แลกเปลี่ยนความรู้ทางการแพทย์ระหว่างประเทศ ทำให้วงการแพทย์นั้นเจริญและมีประสิทธิภาพต่อการรักษาคนไข้ ที่ดีมากยิ่งขึ้น

5.การติดต่อสื่อสาร ปัจจุบันมีการติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลได้ทั่วโลก ด้วยอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นข้อความหรือรูปภาพ แม้แต่เสียงสนทนา ที่รวดเร็วและสะดวกขึ้นมากด้วยช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อีเมล์ เฟสบุ๊ค ไลน์ อินสตราแกรม วีดีโอคอล ทวิสเตอร์ เป็นต้น

6.การเดินทางและการขนส่งที่สะดวกรวดเร็ว ในยุคปัจจุบันการนำอินเตอร์เน็ตเข้ามาใช้ ทำให้เราได้รับความสะดวกสบายในการเดินทาง สามารถเช็คและจองเที่ยวบิน เที่ยวรถ  รวมถึงการส่งของที่สามารถติดต่อให้แมสเซนเจอร์มารับของไปส่งให้ลูกค้าถึงที่ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอเป็นหลาย ๆ วัน

และทั้งหมดนี้คือบทบาทสำคัญของ อินเตอร์เน็ต ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อคนทั้งโลก เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยสุด ๆ ต่อคนไทยและคนทั้งโลก ในขณะเดียวกัน มันก็มีทั้งคุณทั้งโทษในตัวมัน เราจึงควรนำมาใช้ให้เหมาะสมกับการดำเนินชีวิต ถ้านำมาใช้ในทางที่ผิด ก็จะส่งผลเสียต่อตนเองและประเทศชาติอย่างแน่นอน


ลืมเด็กไว้ในรถ อุบัติเหตุสุดเศร้าจากความประมาทจนคร่าชีวิตลูกน้อยแนะออกแบบเทคโนโลยีป้องกัน

                ปฏิเสธไม่ได้ว่าความประมาทนั้นเป็นต้นเหตุของความตายเสมอ เนื่องจากการไม่ระวัดระวังมักจะนำมาซึ่งความสูญเสียในทุก ๆ เรื่องซึ่งผู้ที่เสียใจที่สุดคือตัวของผู้ประมาทเอง หลายคนชอบอ้างความหลง ๆ ลืม ๆ ของตัวเองว่าเป็นสาเหตุของปัญหาต่าง ๆ แต่ความจริงแล้วมันคือความประมาทเลินเล่อที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กและดูเหมือนว่าผู้ใหญ่หลายคนจะมีปัญหาที่คล้ายกันนั่นคือการลืมเด็กไว้ในสถานที่ต่าง ๆ จนนำมาซึ่งความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิด

เหตุการณ์นี้ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 เว็บไซต์ข่าวจากอังกฤษรายงานว่าเกิดเหตุการณ์สลดเมื่อครอบครัวพาเด็กชายเสี่ยวเถียนอายุ 3 ขวบ ไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาล และกลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ราว ๆ 11 โมง หลังจากนั้นครอบครัวจึงพากันไปทานอาหารต่อ จนกระทั่งเวลา 17.00 จึงนึกขึ้นได้ว่าลืมลูกไว้ในรถที่มีอุณหภูมิถึง 47 องศา เมื่อกลับไปที่รถอีกครั้งจึงพบว่าเด็กชายเสี่ยวเถียนได้เสียชีวิตไปแล้ว จากการสำรวจในที่เกิดเหตุทำให้ทราบว่าก่อนเสียชีวิตเด็กชายเสี่ยวเถียนได้พยายามตะเกียกตะกายเพื่อเอาชีวิตรอดโดยมีรอยนิ้วมือปรากฎที่กระจกและหมดสติในที่สุด

อีกหนึ่งเรื่องราวอันน่าเศร้าเกิดขึ้นที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเด็กอีกเช่นกัน ซึ่งเป็นเด็กชายตัวน้อยมีอายุเพียง 1 ขวบถูกพ่อแท้ ๆ ลืมไว้ในรถ จนกระทั่งเพื่อนบ้านได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่เป็นเวลานานจึงตัดสินใจตามหาที่มาของเสียง และพบว่าเป็นเด็กชายตัวน้อยนอนสลบอยู่ในรถท่ามกลางอากาศอันร้อนระอุ เพื่อนบ้านจึงช่วยกันปฐมพยาบาลและพาเด็กส่งโรงพยาบาล แต่หมอไม่สามารถยื้อชีวิตน้อย ๆ นี้ไว้ได้โดยระบุว่าเด็กเสียชีวิตก่อนหน้านี้เกือบชั่วโมงแล้ว เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าสลดเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับประเทศไทยเองก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดเกิดขึ้นที่จังหวัดปัตตานีจากความประมาทของคนขับรถรับส่งนักเรียนเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยพบศพของ ด.ญ. นูระนาเดีย มะ ที่เบาะนั่งหลังสุดของรถตู้รับส่งนักเรียนในสภาพขาดอากาศหายใจ ภายหลังสืบทราบว่าพนักงานขับรถอายุ 23 ปี ไม่ได้ตรวจเช็คนักเรียนก่อนทำการดับเครื่องรถเป็นผลให้เด็กหญิงที่กำลังนอนหลับอยู่เบาะหลังเกิดอาการฮีทสโตรกและหมดสติเสียชีวิตในเวลาต่อมา ด้านแม่ของเด็กหญิงเผยว่ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากแต่ไม่ติดใจเอาความโดยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานในการเอาผิดทางกฎหมาย ซึ่งคนขับรถตู้คนนี้ถูกแจ้งข้อหาเรื่องกระทำโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

จากกรณีดังกล่าวจะเห็นว่าการสูญเสียทั้งหมดล้วนมาจากความประมาทเลินเล่อของผู้ใหญ่ ดังนั้นการตรวจเช็คทุกอย่างก่อนลงจากรถจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดหรือป้องกันด้วยการฝึกให้เด็กรู้จักเอาตัวรอดจากการถูกลืมไว้ในรถด้วยการสอนให้เปิด/ปิดประตูและหน้าต่างรถด้วยตัวเอง หรือบีบแตรเมื่อไม่สามารถออกมาจากรถได้ ดังนั้นสำหรับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สมัยใหม่ควรเสนอให้มีการสร้างนวัตกรรมไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์ที่คอยตรวจจับความเคลื่อนไหว และส่งสัญญานแสดงว่ายังมีคนอยู่ในรถหรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ควรถูกนำมาคิดต่อและพัฒนาเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะนี้เพราะการป้องกันและความไม่ประมาทจะไม่นำมาซึ่งความสูญเสียในอนาคต

 


นวัตกรรม AI สุดล้ำ ทำหน้าที่หลายอย่างได้คล้ายมนุษย์คาดอาจเกิดการว่างงานเพิ่มขึ้น

เทคโนโลยี AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์นั้นเกิดจากการพัฒนาจนนำไปสู่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มนุษย์สร้างขึ้น เป็นการสร้างเพื่อนำมาพัฒนาในด้านต่าง ๆ นอกจากนี้ยังช่วยผ่อนแรงและย่นระยะเวลาของมนุษย์สำหรับการประดิษฐ์คิดค้นนวัตรรมใหม่ ๆ ชนิดอื่นต่อไป แต่ความเก่งกาจและการจัดการความคิดในสมองของ AI เหล่านี้อาจส่งผลให้มนุษย์รุ่นใหม่ในภายภาคหน้าอาจพากันว่างงานเพราะถูกแทนที่โดยปัญญาประดิษฐ์ไปแล้วก็ได้

บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างกูเกิ้ลก็ได้ออกนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์มาให้ได้ใช้งานเช่นกัน นั่นก็คือ  Google Assistant ซึ่งเป็นระบบที่ปรึกษาที่ถูกผนวกเข้ากับ AI ทำให้สามารถรับคำสั่งทางโทรศัพท์ และสนทนากับมนุษย์คู่สายแทนมนุษย์ได้ เช่น การโทรนัดร้านตัดผม โทรจองโต๊ะอาหาร หรือการโทรนัดหมายสำคัญต่าง ๆ โดยระบบ AI ของกูเกิ้ลสามารถสนทนาได้เหมือนมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้คำพูด และการรับมือกับอารมณ์ของคู่สนทนา รวมทั้งมีน้ำเสียงและจังหวะการพูดที่คล้ายกับมนุษย์จริง

ฝั่งเอเชียเองก็ได้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ให้ก้าวล้ำเช่นเดียวกันโดยเฉพาะการสร้าง AI เพื่อตอบสนองต่อระบบการพัฒนาการศึกษา ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการของญี่ปุ่นมีการวางแผนว่าอีก 2 ปีข้างหน้านักเรียนในระดับชั้นประถมและมัธยมต้นจะต้องมีครู AI สำหรับการสอนภาษาอังกฤษทั่วประเทศจำนวนกว่า 500 ชั้นเรียน โดยกระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่นถือว่าภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่นักเรียนญี่ปุ่นทุกคนต้องได้รับการพัฒนาโดยเฉพาะเรื่องการสนทนา และสำเนียงการสื่อสารที่ชัดเจน ดังนั้นการทุ่มงบเพื่อครูสอนภาษาอังกฤษ AI จึงเป็นการลงทุนที่ไม่สูญเปล่าอย่างแน่นอน

อีกหนึ่งความก้าวล้ำของวิทยาการปัญญาประดิษฐ์ที่ถือว่าเป็นการค้นพบครั้งใหญ่ของโลกนั้นถูกสร้างโดยบริษัทดีปมายด์ (Deep Mind) ซึ่งอยู่ในเครือกิจการเดียวกับกูเกิ้ล ได้ออกแถลงการณ์ว่าตนสามารถพัฒนาหุ่นยนต์ AI ให้มีปัญญาคล้ายกับคนได้ โดยการสร้างเซลล์โครงข่ายประสาทเทียมให้มีความคล้ายคลึงกับสมองของมนุษย์มากที่สุด เพื่อให้ AI ได้มีการคิดวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง จากนั้นได้จำลองการหาทางออกจากเขาวงกตโดยให้ปัญญาประดิษฐ์ชนิดนี้ได้พยายามหาทางออก และเมื่อทดลองอยู่หลายครั้งจึงพบว่า AI สามารถใช้ทักษะจากการฝึกหลาย ๆ ครั้งและประมวลผลจนหาทางออกจากเขาวงกตได้ในที่สุด แสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถใช้ความจำ และระบบคิดวิเคราะห์ที่ถูกเลียนแบบจากสมองมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด

ความก้าวหน้าเหล่านี้ทำให้ทราบว่ามนุษย์สามารถสร้างนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เคยจินตนาการไว้ในอดีตให้เป็นความจริงได้ หลายคนจึงเป็นกังวลเรื่องการถูกลดการจ้างงานจากบรรดาบริษัทต่าง ๆ ดังนั้นมนุษย์เองควรใช้ความกังวลเหล่านี้เป็นแรงผลักดันในการพัฒนาตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดใจเรียนรู้วิวัฒนาการใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาใช้เพื่อทุ่นแรงในการทำงานได้เพื่อที่จะไม่กลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถที่ถูกแทนที่ได้ด้วย AI ในอนาคต

 


โอกาสที่เปิดกว้างอย่างไร้ขีดจำกัดกับการนำเทคโนโลยีมาเสริมสร้างรายได้

ด้วยความรู้ที่หาได้อย่างมากมายมหาศาล จากการสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ทั่วโลก ได้เพียงเสี้ยววินาทีด้วยการใช้งานระบบอินเทอร์เน็ต ทำให้ทุกคนที่มีวิสัยทัศน์หรือความคิดสร้างสรรค์ สามารถผลิตผลงานหรือสร้างช่องทางในการหารายได้ที่อาจกล่าวได้ว่า ใช้เวลาเพียงข้ามคืน ก็สามารถกลายร่างจากยาจกสู่จักรพรรดิได้เลยทีเดียว แน่นอนว่าภายใต้สิ่งแวดล้อมใหม่ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีบนโลกใบนี้ ได้เปลี่ยนแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจทั้งในระดับชาติ และระดับโลกไปอย่างมาก จากข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ตของประชากรโลกในปี 2018 พบว่า มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 3,773 ล้านคน ทั่วโลก คิดเป็น 50 % ของประชากรโลก เช่นนี้แล้ว การแข่งขันทางเศรษฐกิจของแต่ละคน แต่ละประเทศ จึงขึ้นอยู่กับความสามารถในการจะหยิบฉวยโอกาสที่เปิดกว้างอย่างไร้ขีดจำกัดนี้ให้เกิดประโยชน์สุงสุดต่อตนเองได้อย่างไร

การพัฒนาเศรษฐกิจบนฐานเทคโนโลยี อาชีพใหม่ อุตสาหกรรมใหม่

โดยโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจบนฐานเทคโนโลยี ที่ปรากฏเป็นข่าวและสื่อในระดับโลกหลาย ๆ ครั้ง มีการแบ่งหมวดหมู่ ข้อดีและประโยชน์จากเทคโนโลยี ที่สนับสนุนเศรษฐกิจได้หลากหลายด้าน แต่ที่เห็นได้เด่นชัดก็คือด้านต่าง ๆ เหล่านี้ ได้แก่

ด้านการส่งเสริม จนเกิดเป็นอาชีพใหม่ ๆ เช่น นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล เป็นอาชีพที่กำลังเป็นที่ต้องการ คือต้องเป็นผู้มีความรู้ด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ จำพวก Cloud Computing, Big Data หรือ Internet of Things แล้วนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาวิเคราะห์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ

หรือแม้กระทั่งอาชีพที่ดูเหมือนเป็นตำแหน่งเล็กน้อยอย่างอาชีพดูแลเพจ หรือตอบข้อความหรือคำถาม และวิธีการใช้บริการ ก็กลายเป็นตำแหน่งที่สำคัญด้านลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัทต่าง ๆ

ประโยชน์อีกด้าน คือ การสนับสนุนการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) เช่น ประเทศจีน ธุรกิจ e-commerce หรือการค้าแบบออนไลน์ช่วยให้ GDP ของประเทศสูงขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มอัตราการจ้างงานอีกด้วย

รวมถึงด้านการก่อเกิดอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เช่น อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ที่มีบทบาทมากในภาคอุตสาหกรรม เพราะช่วยพัฒนาการแข่งขันโดยเฉพาะการเพิ่มผลผลิต หรือประเภทหุ่นยนต์ด้านการบริการ (Service Robot) ที่ผู้บริโภคทั่วไปหันมาสนใจเพราะไม่ต้องทำงานเองให้เปลืองแรง เช่น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เป็นต้น

ยังมีประโยชน์อีกมากที่เทคโนโลยีเข้ามาช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจได้ก้าวกระโดดได้ เพราะผู้บริโภคยุคดิจิตอลนี้ ต่างต้องการการให้บริการที่รวดเร็ว การแก้ปัญหาที่ว่องไว การดูแลหลังการขายที่ดี ซึ่งเทคโนโลยีก็เป็นคำตอบนั้นในการสร้างเครื่องมือ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และสร้างโอกาสที่ไม่มีข้อจำกัด ให้กับทุกภาคส่วน จนเปรียบเสมือนเป็นหัวใจของการดำเนินงานหรือประกอบธุรกิจ ที่ไม่ว่าใครหรือหน่วยงานใดก็ขาดไม่ได้ เป็นการแน่นอนว่าเศรษฐกิจบนฐานเทคโนโลยีนั้นจะเป็นรูปแบบของการพัฒนาเศรษฐกิจแนวใหม่ได้อย่างยาวนานโดยแท้จริง