สินค้าไทยเป็นที่ต้องการของประเทศไหน เราจะส่งออกสินค้าอะไร ที่สร้างยอดขายและตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดี

อย่างที่รู้กันดีว่าในยุคที่มีความทันสมัยทางด้านเทคโนโลยี การส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศจึงมีความสะดวก รวดเร็ว และคล่องตัว ไม่ว่าจะขนส่งทางอากาศ ทางน้ำ หรือทางบก รวมทั้งการติดต่อสื่อสารทำการค้ากันก็สะดวกมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลมาเจอตัวกันให้เสียเวลาเหมือนยุคก่อน ๆ  แค่มีการติดต่อสอบถามกันทางช่องทางเว็บไซต์หรือเว็บเพจก็ตกลงซื้อขายกันได้แล้ว จึงนับว่าไม่ใช่เรื่องยากหากเราคิดจะทำการค้าระหว่างประเทศ และการทำการตลาดนั้นก็ง่าย เพราะมีช่องทางโซเชียลต่าง ๆ ไม่ว่าจะทางยูทูป กูเกิล หรือแม้แต่ไลฟ์สดทางเฟสบุ๊ค ก็สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้กว้างไกลทั่วโลก

แต่ก่อนที่เราจะทำการค้าระหว่างประเทศนั้น เราจะต้องศึกษาวิเคราะห์ให้ดีเสียก่อนว่า ประเทศไหนที่เค้าให้ความเชื่อถือและสนใจสินค้าจากประเทศไทย ยอดขายที่เป็นสถิติที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยมาจากประเทศอะไร และสินค้าแบบไหนที่ชาวต่างชาติต้องการ รวมถึงเงินทุนที่เราจะใช้ในการทำธุรกิจ เพียงพอต่อการผลิตสินค้าส่งออกอย่างมีมาตรฐานตรงตามความต้องการของลูกค้าหรือไม่ ซึ่งวันนี้เรามีข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการทำการค้าระหว่างประเทศมาฝากกัน สำหรับใครที่ยังไม่มีความรู้เบื้องต้นเลย และนี่ก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะสร้างรายได้มหาศาลให้คุณจากการส่งออกสินค้าไปขายต่างประเทศ มีอะไรบ้างไปดูกันเลย

ประเทศที่ให้ความสนใจและต้องการสินค้าไทย ที่เราควรทำการค้าด้วย คือ ประเทศจีน

จีน เป็นประเทศที่มีกำลังในการผลิตสินค้าค่อนข้างสูง ประเทศต่าง ๆ ได้มาจ้างโรงงานจีนในการผลิตสินค้าแบรนด์ต่าง ๆ ออกมามากมายหลากหลายรูปแบบ แม้แต่ประเทศไทยเอง เพราะต้นทุนการผลิตที่จีนนั้นต่ำ เครื่องมือเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย ถือเป็นเจ้าพ่อแห่งเทคโนโลยีในเอเชียเลย แต่ทำไมประเทศจีนยังคงต้องการสินค้าจากประเทศไทยล่ะ คำตอบคือ คนจีน มีความหลงใหลและชื่นชอบในความเป็นไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เค้าเชื่อว่าสินค้าไทยดีและมีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นอาหารแปรรูป ในรูปของอาหารแช่แข็ง อาหารอบแห้ง อย่างผัดไทย ต้มยำกุ้ง ผลิตภัณฑ์จากยางพารา เช่น หมอน ที่นอน สมุนไพรไทย ทั้งยาหอม ยาบำรุงกำลัง และยาทาแก้ปวดเมื่อย ซึ่งได้รับการตอบรับดีมาก ดูได้จากยอดสถิติที่จีนซื้อสินค้าจากประเทศไทยไป มียอดเงินรวม 995,000 ล้านบาททีเดียว และมีแนวโน้มจะขยับสูงขึ้นมาเรื่อย ๆ

ดังนั้นหากใครคิดจะส่งออกสินค้าไปขายยังต่างประเทศ จีน จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากที่สุดตอนนี้ เพราะสินค้าไทยมีความเป็นไทยที่เป็นเอกลักษณ์ ดังนั้นหากคุณจะเลือกส่งออกอะไร ก็ให้คำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคด้วยว่าพวกเค้าให้ความสนใจและชื่นชอบกับอะไรเป็นพิเศษ ที่สำคัญในปัจจุบันการผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานนั้นก็ง่าย เพียงคุณไปจ้างโรงงานที่รับผลิตสินค้าส่งออก ซึ่งจะทำให้คุณมั่นใจถึงคุณภาพ บรรจุภัณฑ์ และต้นทุนการผลิตก็ไม่ได้แพงมาก ทั้งนี้คุณควรศึกษาข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งออกให้ถี่ถ้วนอีกครั้ง เพื่อจะได้ไม่เกิดความผิดพลาดหรือเสียหายใด ๆ ตามมาCategory: การค้าระหว่างประเทศ


การค้าขายกับต่างชาตินั้น ส่งผลดีต่อประเทศชาติอย่างไร แล้วมีผลเสียกระทบตามมาหรือไม่ วันนี้เราจะไปไขคำตอบกัน

ในยุคปัจจุบันนี้จะเห็นว่าสินค้าต่างประเทศได้เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในประเทศไทย คนไทยบางกลุ่มที่มีฐานะหน่อยก็จะใช้ของแบรนด์เนมต่างประเทศกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า โทรศัพท์มือถือ ซึ่งรวมไปถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ต้องนำเข้ามาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทย เนื่องจากคนไทยผลิตเองไม่ได้ ซึ่งก็ส่งผลดีต่อการดำเนินชีวิตของคนไทย ให้ได้ใช้สินค้าที่มีความทันสมัย และตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองได้ ถึงแม้สินค้าต่างประเทศจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่คนไทยที่มีฐานะนั่นเอง เพราะคนไทยมักดำเนินชีวิตไปตามสังคมนิยม ตามเทรนด์แฟชั่น รับวัฒนธรรมต่าง ๆ ของต่างชาติเข้ามา ในขณะเดียวกันสินค้าในเมืองไทยก็ได้ถูกส่งไปจำหน่ายในต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะแฮนด์เมค งานสถาปัต รวมถึงพืชผักผลไม้ต่าง ๆ เช่น ทุเรียน ก็ได้ถูกส่งออกและเป็นที่ต้องการของต่างชาติ เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศ รวมถึงทรัพยากรที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศ จึงทำให้แต่ละประเทศมีสินค้าที่หลากหลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง การเปิดการค้าเสรีระหว่างประเทศ จึงส่งผลดีกับทุกฝ่ายให้ได้มีสินค้าที่หลากหลาย และมีความทันสมัย ตอบโจทย์ผู้บริโภคนั่นเอง

ผลดีของการทำการค้าระหว่างประเทศ

สินค้าในประเทศที่มีจำนวนมากพอกับการจำหน่ายในประเทศ เราก็จะทำการส่งออกไปจำหน่ายนอกประเทศ เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศชาติ ในขณะเดียวกัน เราก็รับสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาเพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ใช้สินค้าที่หลากหลายและมีความทันสมัย ที่ประเทศไทยผลิตเองไม่ได้ หรือผลิตยังไม่มีคุณภาพเทียบเท่าต่างชาตินั่นเอง ทั้งนี้เป็นการสร้างสัมพันธ์ไมตรีระหว่างประเทศให้แน่นแฟ้น และทำธุรกิจอื่น ๆ ร่วมกันได้อีก ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ยื่นมือมาดูแลไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบหรือฉ้อโกงกันได้ จึงทำให้การทำการค้าระหว่างประเทศนั้น ส่งผลดีต่อประเทศชาตินั่นเอง

ผลเสียกระทบต่อการค้าขายกับต่างชาติ

กรณีนี้จะเกิดขึ้นกับค่านิยมของคนไทยที่เห่อแบรนด์ดังต่างประเทศหรือทำตาม ๆ กันจนเป็นสังคมนิยม ทั้ง ๆ ที่สินค้าบางตัวในประเทศไทยก็สามารถผลิตได้มีคุณภาพเทียบเท่าต่างชาติ แต่คนไทยก็ยังไม่นิยมใช้ เนื่องจากมันราคาถูก และไม่เท่ห์ แบรนด์ไม่ดัง ไม่ตามเทรนด์ จึงส่งผลกระทบให้สินค้าดังกล่าวนั้นไม่มียอดขายที่ดีเท่าที่ควร ทำให้ขาดสมดุลทางการค้า เงินไหลออกประเทศมากกว่าที่จะรับเข้ามา ซึ่งแนวทางแก้ไขปัญหานี้ก็คือการปรับรสนิยมและพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยคำนึงถึงประโยชน์ ความคุ้มค่าในคุณภาพและราคาเป็นสำคัญ

และทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะเห็นว่า การทำการค้าระหว่างประเทศนั้นส่งทั้งผลดีและมีผลกระทบบ้างต่อสินค้าคนไทย ที่คนไทยเองไม่มั่นใจจะใช้มัน ดังนั้นในฐานะเราคนไทย ควรช่วยกันปรับพฤติกรรม ช่วยอุดหนุนสินค้าคนไทยที่มีคุณภาพไม่ด้อยไปกว่าต่างชาติ และเลือกใช้สินค้าต่างประเทศเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น เท่านี้ก็จะทำให้ประเทศของเราไม่เสียดุลการค้า และมีเงินสะพัดหมุนเวียนในประเทศเป็นไปอย่างคล่องตัว


ชาวโลจิสติกส์ เฮ! น้ำแข็งขั้วโลกละลายทำการขนส่งทางเรือถึงเร็วกว่ากำหนด

หลายปีมานี้ปรากฎการณ์โลกร้อนดูเหมือนจะยังคงทวีความรุนแรงขึ้น จนส่งผลกระทบต่อโลกในหลาย ๆ ด้าน เช่น ผลกระทบต่อระบบนิเวศที่เมื่ออุณหภูมิโลกสูงขึ้นก็ส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายจนเกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูง บรรดาสัตว์น้ำต่างพากันปรับตัวเพื่อเอาชีวิตรอดในขณะที่สัตว์น้ำบางชนิดต้องสูญพันธุ์ไป และผลกระทบต่อสุขภาพเนื่องจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นส่งผลให้แบคทีเรียบางชนิดเติบโต และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หรือภาวะอุทกภัยเฉียบพลันทำให้เกิดน้ำท่วมในบริเวณกว้าง บ้านเรือนเกิดความสกปรกซึ่งเป็นที่มาของโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งผลกระทบในด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะธุรกิจการประมง เมื่อจำนวนสัตว์น้ำลดลงจากภาวะน้ำเอ่อล้นเป็นผลให้จับสัตว์น้ำได้น้อยลง และอาจกระทบต่อผลผลิตและราคาที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวซึ่งในประเทศที่ต้องพบกับภัยธรรมชาติจากภาวะโลกร้อนเป็นผลให้การท่องเที่ยวต้องชะลอตัวต้องนำเงิน และเวลาจำนวนมากไปแก้ไขพัฒนาความเสียหายให้กลับมาคงเดิม

เหล่านี้ล้วนเป็นผลกระทบที่เกิดจากภาวะโลกร้อนที่หลายประเทศต้องเผชิญโดยเฉพาะประเทศในแถบขั้วโลก เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย หลายหมู่บ้านบริเวณใกล้เคียงกับภูเขาน้ำแข็งต้องพากันอพยพหนีตายกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่เคยตั้งสูงตระหง่านได้เคลื่อนตัวเข้ามาชนหมู่บ้านจากการละลายในอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้หมู่บ้านที่เคยมีผู้คนอาศัยอยู่ต้องกลายเป็นหมู่บ้านร้างบ้างก็จมอยู่ใต้บาดาลทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังเท่านั้น

แต่ใครจะรู้ว่าบางหน่วยงานมองเห็นโอกาสของช่องทางธุรกิจที่สะดวกขึ้นบนความเดือดร้อนเหล่านี้ โดยสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่าเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา เมอสก์ ไลน์ กลุ่มธุรกิจด้านการขนส่ง พลังงาน และโลจิสติกส์ จากประเทศเดนมาร์ก วางแผนทดสอบการแล่นเรือขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางเดินเรือทะเลอาร์กติกของประเทศรัสเซียภายหลังจากที่ภูเขาน้ำแข็งในทะเลอาร์กติกเริ่มละลาย โดยนำเรือขนส่งสินค้าที่บรรจุอาหารทะเลแช่แข็งพร้อมตู้แช่ และตู้คอนเทนเนอร์ แล่นผ่านเส้นทางเดินเรือออกจากเมืองวลาดีวอสต็อก ทางตะวันออกของรัสเซียในสัปดาห์นี้มายังนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กทางเหนือของรัสเซีย คาดว่าจะถึงช่วงปลายเดือนกันยายน แต่กลับมีสิ่งที่เหนือความคาดหมายเกิดขึ้นนั่นก็คือเรือขนส่งสินค้ามาถึงจุดหมายเร็วกว่ากำหนด 14 วัน เนื่องจากสภาพอุณหภูมิที่สูงขึ้นจากภาวะโลกร้อนทำให้ภูเขาน้ำแข็งที่เคยกีดขวางเส้นทางการเดินเรือละลายกลายเป็นน้ำ ส่งผลให้การเดินเรือนั้นง่ายและเร็วกว่ากำหนด

สภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องที่นานาชาติต่างพากันรณรงค์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่ดูเหมือนว่าความพยายามแก้ปัญหาต่าง ๆ กลับไม่เป็นที่พึงพอใจมากนัก ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจบางกลุ่มเล็งเห็นช่องทาง และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจตน เรียกว่าพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้อย่างแท้จริง

 


สินค้าไทยปะทะตลาดออนไลน์จีน เศรษฐกิจฝั่งการค้าปลีกกับทางลัดสู่ความสำเร็จ

จากสถิติที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ของอาชีพพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในประเทศไทย เฉพาะที่จดทะเบียนอีคอมเมิร์ซเมื่อปี 2560 ก็มีอยู่ที่ประมาณ 30,000 ราย ไม่นับรวมที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าอิสระที่น่าจะทะลุเป็นหลักแสนรายแล้วในตอนนี้ เพราะจากที่สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิคส์ (สพธอ.) เผยตัวเลขการซื้อขายสินค้าผ่านทางอินเตอร์เน็ตของไทยในปี 2559 พบว่ามียอดขายประมาณ 269,660 ล้านบาท จากการขายสินค้าผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่มากพอตัว และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วยเช่นกัน นั่นก็ทำให้การพยายามเปิดตลาดนำสินค้าไปขายในต่างประเทศนั้น กำลังเริ่มเป็นช่องทางที่ผู้ค้าออนไลน์มุ่งเป้าหมายไปถึง และแน่นอนว่าตลาดใหญ่มากที่อยู่ในโซนเดียวกันกับประเทศไทย ก็คือ พี่จีนยักษ์ใหญ่ทางตลาดการค้าออนไลน์ ( E-Commerce) นี่เอง

การตลาดออนไลน์ในประเทศจีน ความเฟื่องฟูที่นำมาสู่ความสำเร็จและโอกาสที่คว้าได้ของไทย

                ชาวจีนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าขายมาแต่ไหนแต่ไร และก็กำลังเป็นผู้นำในการพัฒนาด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมาย แถมยังมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำที่สุด และที่สำคัญในปัจจุบันกำลังจะกลายเป็นแหล่งตลาดค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยืนยันได้ด้วยมูลค่าการค้าปลีกบนอินเทอร์เน็ตเป็นอันดับ 1 ของโลก แน่นอนว่าอาจด้วยจำนวนประชากรที่มากมาย แต่ชาวจีนเองก็มีการใช้จ่ายผ่านออนไลน์กันมากขึ้นด้วยอัตราที่รวดเร็วทีเดียว และด้วยปัจจัยเหล่านี้เอง พ่อค้าแม่ค้าไทยก็สามารถสร้างโอกาสในการเจาะเข้าตลาดที่ใหญ่ที่สุดนี้ได้เพียงปลายนิ้วคลิก

อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญหากต้องการค้าขายกับจีนคือเรื่องของภาษา มีชาวจีนส่วนน้อยมากที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ นี่อาจจะเป็นจุดอ่อนของผู้ค้าไทยเช่นกัน เพราะเราก็ไม่ค่อยจะเข้าใจภาษาจีน ทำให้หากการสื่อสารกันผิดพลาด โอกาสที่เปิดกว้างก็อาจจะปิดลงได้ในทันที และมาพร้อมกับหายนะทางการค้า ดังนั้นหากผู้ค้าใดสามารถสื่อสารด้วยภาษาจีนได้ก็จะเพิ่มความเป็นไปได้ในการขยายตลาดได้ง่ายขึ้นมาก รวมไปถึงเรื่องของการเลือกเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ต้องการเจาะเข้าไปขายสินค้าไทยก็มีความสำคัญเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ Taobao ที่เป็นเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของจีนและมีสารพัดสินค้ามากมาย ชนิดที่บางอย่างผู้ค้าคนไทยยังคิดไม่ถึง

เพราะการเลือกแพลตฟอร์มที่เข้ากับสินค้า หรือหากแพลตฟอร์มนั้นกำลังต้องการสินค้าของเรา ก็จะทำให้โอกาสในการเป็นที่รู้จักนั้นเพิ่มขึ้น ผู้ค้าจึงควรจะศึกษารายละเอียดเหล่านี้ให้ดี รวมไปถึงการเลือกวิธีการชำระเงินหรือด้านความสะดวกและประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ก็เป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณากันให้ดีเลยทีเดียว