ภาครัฐทั่วเอเชียหนุนหนุ่มสาวปั๊มลูกเร่งแก้ปัญหาประชากรลดลงในระยะยาว

การลดจำนวนลงของประชากรนั้นดูเหมือนจะเป็นปัญหาหนักอกหนักใจของผู้นำในหลาย ๆ ประเทศ จนต้องออกนโยบายเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนวัยหนุ่มสาวรีบแต่งงาน และมีลูกเพื่อนำมาลดหย่อนภาษีได้ การลดลงของจำนวนการเกิดของเด็กในประเทศนั้นส่งผลต่อความไม่สมดุลกันระหว่างประชาชนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น และจำนวนเด็กที่ลดลงอย่างน่าใจหาย เป็นผลให้เกิดความกังวลเรื่องการจ้างงานในอนาคตจนเกิดภาวะการขาดแคลนแรงงานเพื่อพัฒนาประเทศได้ในที่สุด

โดยหลายประเทศ โดยเฉพาะในทวีปเอเชียเกิดปัญหานี้ขึ้น โดยเฉพาะในประเทศมหาอำนาจอย่างจีน จากเดิมรัฐบาลจีนได้กำหนดโควต้าให้ทุกครอบครัวสามารถมีบุตรเพื่อสืบเชื้อสายได้เพียง 1 คนเท่านั้น การประกาศนโยบายนี้ก็เพื่อลดจำนวนประชากรจีนที่เพิ่มขึ้นทุกปี แต่จากสถิติการหย่าร้างที่เพิ่มขึ้น และการลดลงของจำนวนคู่แต่งงานตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาทำให้จำนวนการเกิดใหม่ของประชากรลดน้อยลง ส่งผลให้รัฐบาลจีนต้องออกประกาศใหม่อีกครั้งเรื่องการกำหนดโควต้าเด็กให้เพิ่มจากครอบครัวละ 1 คน เป็นครอบครัวละ 2 คน เพื่อแก้ปัญหาของจำนวนประชากรที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภาวะการเกิดน้อยลง เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเป็นสังคมของคนทำงานหนักประกอบกับชายหญิงส่วนใหญ่ถึงแม้ว่ามีความต้องการใช้ชีวิตคู่แต่ยังคงหวงชีวิตอิสระ ทำให้ประชากรวัยหนุ่มสาวส่วนมากนิยมอยู่ตามลำพัง รัฐบาลญี่ปุ่นจึงเกิดความกังวลว่าในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้าประชากรญี่ปุ่นจะน้อยลงแต่มีจำนวนผู้สูงอายุมากขึ้นเป็นเท่าตัว ส่งผลให้เกิดความไม่สมดุล และอาจกลายเป็นปัญหาระดับชาติที่ต้องได้รับการเยียวยาโดยเร็วที่สุด ดังนั้นรัฐบาลจึงออกประกาศลดเวลาการทำงานของประชาชนลง เพื่อให้มีเวลาอยู่กับคนรักและครอบครัวมากขึ้น

สำหรับประเทศไทยเองก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน เนื่องจากจำนวนคนชราสูงขึ้นแต่จำนวนเด็กเกิดใหม่กลับลดลง รัฐจึงเห็นว่าถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปสังคมไทยต้องกลายเป็นสังคมคนชรา โดยประชาชนวัยแรงงานต้องแบกรับภาระการเลี้ยงดูผู้สูงอายุมากขึ้น ดังนั้นรัฐบาลจึงออกมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ที่มีบุตรคนแรกจะสามารถลดหย่อนภาษีได้ถึง 30,000 บาทต่อปี และลดหย่อนภาษีอีก 60,000 บาทต่อปี สำหรับบุตรคนที่ 2 ขึ้นไป เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนไทยวัยทำงานมีความต้องการมีบุตรเพิ่มขึ้น

อัตราการเกิดที่ลดลงอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ในประเทศต้องเกิดปัญหา เช่น การปิดตัวลงของโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย การยุบชั้นเรียนและนำนักเรียนมาเรียนรวมกัน รวมถึงการว่างงานของบุคลากรที่ทำงานเกี่ยวกับเด็กโดยเฉพาะครูอนุบาล หรือแม้กระทั่งจำนวนตำแหน่งงานที่เพิ่มขึ้นจากสภาวะขาดแคลนแรงงาน และอีกหลายปัญหาที่คาดว่าจะตามมาในอนาคตอันใกล้นี้ ดังนั้นการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลดหย่อนภาษีหรือช่วยเรื่องการศึกษาจากภาครัฐให้ประชาชนได้เห็นข้อดีของการมีบุตรนั้นเป็นเรื่องดี เพื่อลดความกังวลจากคนวัยหนุ่มสาวเรื่องความกลัวต่อความยากลำบากที่จะเกิดกับลูกในอนาคต