“ทีมชาติไทย” กับหนทางสู่ฟุตบอลโลก 2022

เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ได้มีผลการจับสลาก “แบ่งสายฟุตบอลโลก2022รอบคัดเลือก โซนเอเชีย” รอบที่ 2 โดยหนทางในรอบนี้ของ “ทีมชาติไทย” ต้องบอกเลยว่าไม่ง่าย เมื่อต้องโคจรมาอยู่ร่วมสายกับทีมชั้นนำระดับเอเชียอย่างทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอีกสามทีมเพื่อนบ้านจากอาเซียนอย่าง อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, เวียดนาม ซึ่งต่างก็รู้ไส้รู้พุงกันเป็นอย่างดี แต่เชื่อว่าทัพนักเตะทีมชาติไทยต่างก็พร้อมจะพิสูจน์ตนเองอีกครั้งว่ายังเป็นอีกหนึ่งทีมที่ประมาทไม่ได้ในทวีปเอเชีย เพื่อที่จะกรุยทางการคัดเลือกในรอบนี้ไปสู่ในรอบที่ 3 ที่ ก่อนไปสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศ “กาตาร์”

ช้างศึก กับแม่ทัพคนใหม่

อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่าฟุตบอลชายทีมชาติไทยของเรานั้นได้กุนซือคนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นก็คือ “อากิระ นิชิโนะ” เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่นผู้ผ่านสังเวียนการคุมทีมในระดับชั้นนำมาแล้วอย่างมากมาย โดยเฉพาะการพาทีมชาติญี่ปุ่นไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ ซึ่งเป็นเป็นหมายอันสูงสุดของ “ทัพช้างศึก” ที่มีอยู่ในตอนนี้ แต่การที่จะได้ไปแข่งขันยังฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้องค์ประกอบทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะต้องถูกจัดวางกันใหม่เมื่อเรายังไม่สามารถทราบได้ว่าผู้เล่นที่กุนซือชาวญี่ปุ่นคนนี้ต้องการใช้งานจะมีใครบ้างในเมื่อมีตัวเลือกให้ใช้อย่างมากมายทั้งนักเตะหน้าเดิมรวมถึงนักเตะหน้าใหม่ ๆ และดาวรุ่งที่ฟอร์มดีอีกด้วย หรือแม้กระทั่งแผนการเล่นของกุนซือรายนี้ก็ยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาเช่นกัน

ถึงแม้นักเตะในทีมส่วนใหญ่ยังจะไม่ถูกประกาศเรียกติดทีมในตอนนี้ แต่ที่ค่อนข้างจะชัดเจนเป็นอย่างสูงนั่นก็คือ 3นักเตะแกนหลัก ที่ได้ไปสั่งสมประสบการณ์ยังฟุตบอลลีกประเทศญี่ปุ่น หรือ “เจลีก” นั่นได้แก่ ชนาธิป สงกระสินธ์ เพลเมกเกอร์ตัวเก่ง ที่เป็นตัวหลักให้กับทีมคอนซาโดเร่ ซัปโปโร ในขณะนี้ คนถัดมาคือ ธีรธร บุญมาทัน แบ๊คซ้ายตัวเก๋าที่พึ่งแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงได้ภายในทีมโยโกฮาม่า เอฟมารินอส และคนสุดท้ายคือ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มิดฟิลด์ห้องเครื่องจาก โออิตะ ทรินิตะ โดยทั้ง 3 จะนำประสบการณ์จากลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดในทวีปเอเชียมาใช้ในการรับใช้ทีมชาติและประคองเพื่อนร่วมทีมไว้นั่นเอง

เวียดนามคู่แค้นและศัตรูตัวฉกาจ

สำหรับในตอนนี้นั้นคู่แข่งที่ทีม “ช้างศึก” ต้องการเอาชนะมากที่สุดคือทีมชาติเวียดนามหลังจากที่ช่วงหลังไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้เลยไม่ว่าจะในทีมชุดใหญ่หรือชุดเยาวชนระดับต่าง ๆ ซึ่งนั่นก็มาจากการที่ทีม “ดาวแดง” พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับมีนักเตะชั้นเยี่ยมทยอยแจ้งเกิดกันเป็นจำนวนมาก จนแล้วจนรอดหนทางอันยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างฟุตบอลโลกทั้ง 2 ทีมก็หนีกันไม่พ้นและต้องโคจรมาเจอกันอีกหน แต่ในครั้งนี้ทีมชาติไทยคงจะไม่ยอมเสียท่าให้ทีมชาติเวียดนามอย่างแน่นอนเพราะในครั้งนี้มีตั๋วสู่ “ฟุตบอลโลก2022” ที่ประเทศกาตาร์เป็นเดิมพันนั่นเอง