เอกนิษฐ์ ปัญญา ผู้มีฝีเท้าที่ไม่ธรรมดามาตั้งแต่เด็ก

หลังจากนักฟุตบอลทีมชาติไทย จารึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญให้กับวงการฟุตบอลไทยอีกครั้ง โดยการเฉือนชนะทีมชาติสหรัฐอาหรับมิเรตส์ได้อย่างหวุดหวิดสองประตูต่อหนึ่ง ถึงแม้ว่าสหรัฐอาหรับมิเรตส์จะมีนักเตะตัวเก๋าหลายคนลงแข่งก็ตาม อาทิเช่น อาลี มาบคูท อาห์เหม็ด คาลิล หรือ โอมาร์ อับดุล รามาน เป็นต้น

ถึงแม้ว่าการแข่งขันครั้งนี้จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า รูปเกมการเล่นของเราดีกว่า และมีเปอร์เซ็นต์การครองบอลที่ดีกว่า เรียกได้ว่าแทบจะพับสนามคู่แข่งเลยทีเดียวเชียว แต่เวลาโดนทีมคู่แข่งสวนกลับก็ทำให้หนาวได้เลยทีเดียว เพราะลูกสวนของทีมชาติสหรัฐอาหรับมิเรตส์นั้นมีพลังไม่น้อยเลย ในเกมนี้การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกปี 2020 ระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติสหรัฐอาหรับมิเรตส์เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 ทำให้เกิดดาวรุ่งคนใหม่ขึ้นโดยทันที นั่นก็คือ “เอกนิษฐ์ ปัญญา”

เอกนิษฐ์ ปัญญา จากเด็กชายกล้าฝัน สู่นักฟุตบอลทีมชาติไทย

กว่าจะมาเป็นเอกนิษฐ์ ปัญญาอย่างในปัจจุบันนี้ เรียกได้ว่าไม่ง่ายเลย เพราะกว่าจะผ่านความลำบากมาได้แต่ละสนามนั้น ต้องใช้ทั้งความพยายามและความอดทนอดกลั้น เอกนิษฐ์ ปัญญา หรือบุ๊ก ในวัยเด็กมักจะติดตามคุณพ่อของเขาไปชมการแข่งขันฟุตบอลในสนามต่าง ๆ จนฟุตบอลกลายเป็นสิ่งแวดล้อมของเขาไปโดยปริยาย วันหนึ่งบุ๊กได้มีโอกาสเข้าไปร่วมฝึกเตะกับสโมสรสิงห์เชียงรายยูไนเต็ด และหลังจากนั้นเขาก็ได้เตะให้กับทีมเยาวชนสิงห์เชียงรายยูไนเต็ดรุ่นอายุ 14 ปี จากนั้นไม่นานเขาก็ได้ลงเตะให้กับสโมสรสิงห์เชียงรายชุดใหญ่ เนื่องจากฝีเท้าในการเตะของเขาไม่ธรรมดาเหมือนเด็กทั่วไป ถึงแม้ว่าการเตะให้กับสโมสรเชียงรายชุดใหญ่ในครั้งแรกนั้น เขาจะได้ลงเตะในสนามในช่วงท้ายของเกมเพียงไม่กี่นาทีในฐานะตัวสำรอง แต่นั้นก็มีความหมายกับเด็กอายุเกือบ 16 ปียิ่งนัก อีกทั้งเขายังถูกบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ของฟุตบอลไทยลีกในประเด็น เด็กอายุน้อยที่สุดที่ได้เตะไทยลีกชุดใหญ่ จึงทำให้เป็นแรงผลักดันและแรงบันดาลใจให้กับเขาในการทุ่มเทซ้อมได้เป็นอย่างดี

บุ๊กเป็นนักเตะที่ไม่เคยย่อท้อในการซ้อม อีกทั้งยังพัฒนาฝีเท้าของตัวเองอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดฟอร์มการเตะฟุตบอลของบุ๊กก็ไปเข้าตาโค้ชอากิระ นิชิโนะ จนได้ และสุดท้ายเขาก็ได้ลงเตะให้กับฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ในนัดที่พบกับสหรัฐอาหรับมิเรตส์ ด้วยวัยเพียง 19 ปีเท่านั้น และที่สำคัญเขายังทำแอสติสโดยการเปิดลูกสวย ๆ โยนให้ ธีรศิลป์ แดงดา โหม่งทำประตูแรกให้กับทีมชาติไทยในนาทีที่ 26 แต่ไม่นานนักสหรัฐอาหรับมิเรตส์ ก็ตีประตูเสมอได้ในนาทีทดบาดเจ็บของครึ่งแรก

แต่เมื่อเริ่มครึ่งหลัง การแข่งขันก็เริ่มเข้มข้นขึ้น จนทำให้แฟนบอลไทยเกือบห่อเหี่ยวหัวใจ แต่แล้วฮีโร่ตัวน้อยอย่างบุ๊กก็ได้ทำให้คนไทยได้เฮอีกครั้ง โดยการซัดประตูคู่แข่งไปอีกหนึ่งดอก และสุดท้ายก็เป็นทีมชาติไทยที่สามารถเอาชนะยูเออีไปได้ หลังจากไม่ชนะมา 15 ปี และท้ายที่สุดแล้วคนที่ได้รางวัล Man of the match ก็คือเขานั่นเอง

จากเรื่องราวของบุ๊กข้างต้น ทำให้เห็นสัจธรรมอย่างหนึ่งคือ “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น” หากท่านไม่เชื่อ ก็ลองดูบุ๊กน้อยคนนี้เป็นตัวอย่างได้นะ