จากการละเล่นพื้นบ้าน กลายมาเป็นกีฬาท้องถิ่นสุดฮิต

การละเล่นไทยในอดีตมีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการละเล่นทางน้ำ ทางบก หรือทางลมก็ตาม แสดงให้เห็นว่าคนไทยมีความคิดสร้างสรรค์และเป็นนักคิดตัวยง และการละเล่นไทยในอดีตนั้นถูกส่งต่อมายังคนในยุคปัจจุบันในรูปแบบของการกีฬา ทำให้นึกถึงกลิ่นอายของความเป็นพื้นบ้านของไทยในสมัยก่อน ซึ่งการละเล่นไทยที่มักจะถูกหยิบยกใช้มาเป็นกีฬาท้องถิ่นนั้น มีด้วยกันหลายการละเล่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น เดินกะลา ตีวงล้อ ชักกะเย่อ หรือวิ่งกระสอบ เป็นต้น

การละเล่นดังกล่าวข้างต้นมักจะถูกนำมาใช้ในการแข่งขันกีฬาในระดับท้องถิ่น เช่น กีฬาตำบล กีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า กีฬาอบจ. กีฬาหน่วยงาน เป็นต้น เพราะการละเล่นดังกล่าวนั้น เป็นการละเล่นที่เรียบง่าย อาศัยทักษะ ไหวพริบปฏิภาณในการแข่งขันเป็นหลัก ซึ่งวันนี้เราจะนำพาท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับการละเล่นดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น

การละเล่นสุดฮิตที่กลายมาเป็นกีฬา

การละเล่นสุดฮิตที่กลายมาเป็นกีฬาที่พบเห็นได้บ่อยครั้งในยุคปัจจุบัน ได้แก่

1.เดินกะลา การแข่งขันเดินกะลานั้นจะต้องอาศัยการทรงตัวที่ดีและความว่องไว เพราะหากทรงตัวไม่ดีจะทำให้ไม่สามารถเดินบนกะลาทั้งสองอันได้ เนื่องจากกะลาทั้งสองอันนั้น ไม่ได้มีความสมดุลหรือมีขนาดที่เท่ากัน ผู้แข่งขันจึงต้องหาเทคนิคในการเดินบนกะลาให้ได้ จึงจะสามารถทำให้ชนะการแข่งขันได้

2.ตีวงล้อ หากดูผิวเผินแล้ว การตีวงล้อดูเหมือนจะทำได้ง่าย ๆ แต่ไม่ใช่เลย เพราะการตีวงล้อนั้นจะต้องอาศัยน้ำหนักมือและความต่อเนื่องในการตีวงล้อ อีกทั้งยังต้องควบคุมทิศทางให้ดี เพราะหากขาดประสบการณ์ในการตีวงล้อ หรืออ่อนซ้อมในการตีวงล้อ ก็จะทำให้วงล้อหล่นลงกลางทางได้ ดังนั้นแล้วผู้เข้าแข่งขันควรจะซ้อมตีวงล้อก่อนการแข่งขัน

3.ชักกะเย่อ การละเล่นชนิดต้องอาศัยความร่วมมือ ความสามัคคีของสมาชิกในทีม เพราะการจะชนะชักกะเย่อได้นั้น ทุกคนในทีมต้องร่วมมือร่วมใจกันดึงเชือกในจังหวะที่พร้อมเพรียงกัน จึงจะส่งแรงดึงไปยังคู่แข่งได้

4.วิ่งกระสอบ แม้ว่าการวิ่งกระสอบจะเป็นการละเล่นที่เพิ่งมีไม่นานเหมือน ๆ การละเล่นอื่น แต่ก็มีมานานพอสมควรแล้ว และการละเล่นชนิดนี้ผู้เข้าแข่งขันจะต้องสวมกระสอบเข้าที่ขาทั้งสองข้าง โดยที่มือทั้งสองข้างจับมุมกระสอบทั้งสองมุม จากนั้นก็แข่งกันวิ่งเข้าสู่เส้นชัย ผู้ที่เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกคือผู้ชนะ และหากไม่มีการซ้อมมาเป็นอย่างดี ผู้เข้าแข่งขันอาจจะวิ่งไปกลิ้งไปตามพื้นสนามได้ ดังนั้นผู้เข้าแข่งขันต้องคุ้นชินกับความกว้างของกระสอบ และจะต้องกะระยะการก้าวในแต่ละครั้งให้เหมาะสมกับความกว้างของกระสอบด้วย    

จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าการละเล่นไทยไม่นิยมเล่นคนเดียวได้ เพราะมักจะเล่นกันเป็นหมู่คณะ และที่สำคัญการนำการละเล่นไทยพื้นบ้านมาเป็นกีฬาท้องถิ่นนั้น นอกจากจะทำให้เกิดการอนุรักษ์การละเล่นพื้นบ้านของไทยแล้ว ยังทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีในหมู่คณะอีกด้วย