“ว่าว” กีฬาประเพณีที่ค่อย ๆ เลือนหายไปจากเมืองไทย

ตามคำกล่าวขานของคนโบราณ ว่าว เป็นเพียงเครื่องมือที่ใช้วัดระดับและทิศทางของลมในอดีต อีกทั้งในอดีตนั้น คนโบราณมีความเชื่อว่า หากว่าวไปตกลงที่บ้านของใครหรือพื้นที่ไหน พื้นที่นั้นจะเป็นพื้นที่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองในอนาคต ว่าวจึงเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ถูกพระมหากษัตริย์หรือผู้นำในอดีตใช้ เพื่อช่วยเลือกพื้นที่หรือทำเลในการก่อร่างสร้างเมือง นอกจากนี้ ว่าวยังไปปรากฏในนิทานพื้นบ้านของไทย หรือนิทานปรัมปราอีกด้วย เช่น ในเรื่องแก้วหน้าม้า เป็นต้น แต่ในปัจจุบันการละเล่นว่าวนั้นเริ่มจางหายไปจากสังคมไทย เพราะปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ความนิยมของเล่นในรูปแบบเทคโนโลยีที่มีมากกว่าความนิยมของเล่นในรูปแบบของเล่นพื้นบ้าน เป็นต้น

การแข่งขันว่าว ที่สนุกไม่แพ้เกมกีฬาอื่น ๆ 

การแข่งขันว่าวในปัจจุบัน แม้จะเลือนหายไปบ้างแล้ว แต่ในบางพื้นที่ท้องถิ่นก็ยังมีการสนับสนุนการแข่งขันว่าว โดยบรรจุการแข่งขันว่าวให้เป็นการแข่งขันกีฬาชนิดหนึ่งของท้องถิ่นนั้น ๆ เช่น บางท้องที่ของจังหวัดสตูล บางท้องที่ของจังหวัดสงขลา เป็นต้น

การแข่งขันว่าว ถือ เป็นการแข่งขันกีฬาที่ต้องใช้ความสามารถในหลาย ๆ ด้านดังนี้

ด้านศิลปะและจินตนาการ เพราะต้องออกแบบลายว่าวของตนเองให้ดึงดูดและน่าสนใจ เพื่อให้ได้เข้าชิงรางวัลในด้านความคิดสร้างสรรค์ แต่ละคนก็จะมีความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างกันไปตามความถนัดและความชอบ

ด้านการคำนวณ การแข่งขันว่าวนั้น ต้องใช้ความรู้ทางด้านวิทยาศาตร์และคณิตศาสตร์ เพื่อคำนวณให้ว่าวของตัวเองลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าได้อย่างสมดุล ไม่เอนเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง หรือมีอาการฉวัดเฉวียงในระหว่างที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งว่าวที่ดี ควรจะต้องลอยตรง กล่าวคือ เชือกจะต้องทำมุมฉากกับพื้นโลกให้ได้มากที่สุด

ด้านงานฝีมือ การสร้างว่าวหนึ่งตัวนั้น ในสมัยก่อนจะนิยมนำไม้ไผ่มาเหลาให้เป็นทรงกลมและดัดให้เป็นรูปว่าวตามแบบที่เราต้องการ ซึ่งว่าวมีหลายรูปแบบ อาทิเช่น ว่าวจุฬา จะมีรูปร่างคล้ายกับดาวห้าแฉก เป็นว่าวที่คนไทยแทบทุกภาคนิยมเล่น ว่าวปักเป้า เป็นว่าวที่มีรูปร่างสี่เหลี่ยมและนิยมติดหางยาว ๆ เอาไว้ตรงเหลี่ยมล่างสุดของว่าวเพื่อความสวยงาม ว่าววงเดือน หรือว่าวบุหลัน เป็นว่าวที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายเขาควาย นิยมเล่นทางภาคใต้ตอนล่างและประเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย ว่าวอีลุ้ม เป็นว่าวที่มีลักษณะไม่ต่างจากว่าวปักเป้า เพราะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน นิยมติดพู่เอาไว้เพื่อความสวยงามและความสมดุล นอกจากนี้ยังมีการประดิษฐ์แอกว่าวหรือสนูว่าวขึ้น ซึ่งสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวจะส่งเสียดังเมื่อว่าวลอยขึ้นสู่ฟ้า และโดนลม

จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าการจะแข่งขันว่าวได้ในแต่ละครั้งนั้น จะต้องเตรียมตัวและมีความรู้เรื่องความสมดุลเป็นอย่างดี จึงจะสามารถเข้าร่วมการแข่งขั้นได้ ซึ่งถือเป็นความท้ายทายของผู้แข่งขัน อย่างไรก็ตามว่าวเป็นกีฬาประเพณีท้องถิ่นที่มีความสนุกสนานไม่แพ้กีฬาชนิดอื่น ๆ เลย ดังนั้นแล้วต้องช่วยกันอนุรักษ์ให้ว่าวคงอยู่ไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน


ยุคถดถอยของปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือที่ชาวไทยส่วนมากรู้จักกันในนาม “ปีศาจแดงแมนยู” อาจเป็นทีมโปรดของใครหลายคน เนื่องจากในอดีตนั้นมีนักเตะตัวเก๋าหลายคน แถมยังทำผลงานได้ดีอีกด้วย แต่ในปัจจุบันเหมือนกับว่าทีมฟุตบอลดังกล่าวได้ตกมาอยู่ในยุคถดถอย เนื่องจากฟอร์มการเล่นตกต่ำ คะแนนและอันดับไม่ได้อยู่อันดับต้น ๆ ของตารางการแข่งขันเหมือนกับในอดีต ทั้ง ๆ ที่ในอดีตนั้นฟอร์มการเล่นของพวกเขาเด่นเป็นอย่างมาก สามารถกวาดรางวัลมาได้หลายรายการด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นแชมป์เอฟเอคัพถึง 12 สมัย แชมป์ลีกถึง 20 สมัย หรือยูฟ่าแชมป์เปี้ยนถึง 3 สมัย เป็นต้น แต่ในปัจจุบันนั้นจะสังเกตเห็นได้ว่าทีมฟุตบอลดังกล่าวห่างหายจากการเป็นแชมป์มานานพอสมควร วันนี้ทางเราจึงจะนำท่านผู้อ่านมาพบกับปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุทำให้ปีศาจแดงอยู่ในยุคถดถอย จะมีปัจจัยอะไรบ้างนั้นตามมาอ่านกันเลย  

ปัจจัยที่อาจทำให้แมนยูอยู่ในยุคถดถอย

เป็นเรื่องปกติของเกมกีฬาที่จะต้องมีทั้งขาขึ้นและขาลง ปีศาจแดงก็เช่นกันที่มีทั้งจุดที่รุ่งเรืองและจุดที่ตกต่ำ ซึ่งปัจจัยที่อาจทำให้แมนยูตกอยู่ในยุคถดถอย อาจมาจากสาเหตุดังต่อไปนี้

1.การวางรูปเกมไม่ดี การวางรูปเกมในการแข่งขันฟุตบอลถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการวางรูปเกมที่ดีนั้นจะทำให้สามารถควบคุมคู่แข่งได้ แต่หากสังเกตในช่วงที่ผ่าน ๆ มาแมนยูมักจะมีปัญหากับการวางรูปเกม โดยเฉพาะในกองหน้าและกองหลัง ทำให้เกมการบุกไม่มีพลังและเกมการรับไม่แข็งแกร่งพอ จึงทำให้ที่ผ่าน ๆ มาไม่สามารถเอาชนะทีมใหญ่ ๆ ได้

2.นักเตะหมดไฟ นักเตะหลายคนดูเหมือนหมดไฟในการเตะให้กับสโมสรปีศาจแดง ไม่มีแรงฮึกเหิมในการแข่งขัน เนื่องจากผู้จัดการทีมคนปัจจุบันอย่างโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ (Ole Gunnar Solskjaer) ไม่ค่อยสร้างความหิวกระหายในชัยชนะ เพื่อเป็นแรงผลักดันให้กับลูกทีมสักเท่าไหร่ จึงทำให้ลูกทีมเตะบอลเป็นหน้าที่ มากกว่าการเตะบอลเพื่อชัยชนะ

3.ทีมบริหาร นอกจากผู้จัดการทีมจะไร้แรงกระตุ้นทีมนักเตะแล้ว ทีมบริหารเองก็เป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่ทำให้แมนยูดิ่งด่ำสู่ยุคถดถอย เพราะทีมบริหารไม่ค่อยมีความเป็นมืออาชีพในการจัดหานักเตะมาเสริมทัพให้กับปีศาจแดงสักเท่าไหร่ จึงทำให้ปีศาจแดงขาดกำลังเสริมที่ควรจะมี เท่ากับว่าเสริมไม่ถูกจุดนั้นเอง

ปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นอาจจะตรงใจหรือไม่ตรงใจท่านผู้อ่านไปบ้าง แต่อีกหนึ่งเรื่องที่เป็นสัจธรรม คือ การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างจะต้องอาศัยการค่อย ๆ ปรับตัวไปทีละนิด อย่างแมนยูนั้นในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา นับว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในทีมที่ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งตัวนักเตะเอง ผู้จัดการทีม หรือแม้แต่ทีมบริหาร ดังนั้นแล้วตรงนี้แฟนบอลปีศาจต้องให้เวลาในการปรับตัวของสโมสรหน่อยนะ และเชื่อว่าวันหนึ่งปีศาจแดงจะกลับมาเป็นปีศาจตัวเด่นและรุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง


บุรีรัมย์กับการยกระดับเมือง ด้วยเรื่องฟุตบอล

หากพูดถึงจังหวัดบุรีรัมย์เมื่อหลายสิบปีก่อน ท่านผู้อ่านคงนึกภาพไม่ออกเลยใช่ไหมว่า ถ้าจะเก็บกระเป๋า ลางาน ไปเที่ยวบุรีรัมย์สักสองสามวัน จะต้องไปเที่ยวที่ไหน ไปเที่ยวอย่างไร เพราะจังหวัดบุรีรัมย์สมัยก่อนนั้นแทบจะไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลากหลายแนวให้ได้ไปเยือนกันเลย มีเพียงโบราณสถานที่สำคัญและน่าสนใจทั้งสองแห่งได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งและปราสาทเมืองต่ำ แต่ปัจจุบันคำพูด ความคิด หรือคำถามเหล่านั้นถูกทำลายแทบจะหมดไป เพราะในปัจจุบันจังหวัดบุรีรัมย์นั้นได้เปลี่ยนและยกระดับเมืองของตัวเองให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวที่มีหน้าตาเหมือนกับเมืองทั่ว ๆ ไปที่เน้นจุดขายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญในตัวเมือง หรือแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาตินะ เพราะที่นี่ เขาผลักดันเมืองของตัวเองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงกีฬา ซึ่งกีฬาที่ว่านั้นก็คือ กีฬาฟุตบอล นั่นเอง

ที่มาของบุรีรัมย์ เมืองท่องเที่ยวเชิงกีฬา

ก่อนที่จะมาเป็นสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รู้หรือไม่ว่าทีมนี้เขามีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน เพราะก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดนั้น แรกเริ่มเดิมทีมีชื่อว่า สโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จนกระทั้งในปี พ.ศ. 2552 นายเนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมืองชื่อดังของประเทศและของจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ทำการซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และเปลี่ยนชื่อมาเป็นบุรีรัมย์ พีอีเอ และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดในที่สุด นอกจากนี้ยังมีการสร้างสนามฟุตบอลมาตรฐานสากลแห่งแรกของประเทศไทยเกิดขึ้นที่จังหวัดบุรีรัมย์แห่งนี้ด้วย เพราะไม่มีลู่วิ่งล้อมสนามฟุตบอลเหมือนกับสนามอื่น ๆ มากไปกว่านั้นสนามฟุตบอลแห่งนี้ยังได้การยอมรับจากฟีฟ่า และยังเป็นสนามระดับมาตรฐานสากลตามแบบฉบับของฟีฟ่าที่ใช้เวลาในการสร้างน้อยที่สุดในโลก โดยใช้เวลาในการสร้างเพียง 256 วันเท่านั้น จากสถิติดังกล่าวทำให้สนามฟุตบอลแห่งนี้ถูกบันทึกลงในกินเนสบุ๊คในฐานะสนามฟุตบอลมาตรฐานฟีฟ่าที่ใช้เวลาสร้างน้อยที่สุดในโลก จากที่กล่าวมาข้างต้นคืออานิสงส์ที่ทำให้เมืองเล็ก ๆ กลายมาเป็นเมืองที่หลาย ๆ คนในต่างจังหวัดให้ความสำคัญ

ผลิตเม็ดเงินเข้าจังหวัดจากฟุตบอล

จากการผลักดันให้บุรีรัมย์เป็นเมืองท่องเที่ยวโดยใช้ฟุตบอลเป็นจุดขาย ถือเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่มีใครทำในเมืองไทย แต่จังหวัดบุรีรัมย์นั้น ทำได้สำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะหากมีการแข่งขันในแต่ละครั้ง แฟน ๆ บอลจากทั่วทุกสารทิศ จะทำให้การเดินทางมายังจังหวัดบุรีรัมย์ จองห้องพัก และใช้จ่ายในจังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้เม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเพื่อเข้ามารับชมฟุตบอลในแต่ละครั้งนั้น กลับคืนสู่ธุรกิจท้องถิ่น ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยหนึ่งในการสร้างรายได้ให้แก่คนในจังหวัดบุรีรัมย์ นอกจากนี้จังหวัดแห่งนี้เขายังมีสนามแข่งรถระดับมาตรฐาน และค่ายมวยขนาดใหญ่อีกนะ

หากมีโอกาส อยากให้ท่านผู้อ่านลองเปิดใจมาเยือนเมืองบุรีรัมย์สักครั้งในชีวิต และต้องขอบอกเลยว่าฟุตบอลไทยลีกน่าดูไม่แพ้ฟุตบอลของลีกอังกฤษเลยแม้แต่น้อย


จากกีฬาวิ่งสู่กิจกรรมการกุศลอันยอดฮิตของประเทศ

หากพูดถึงกีฬาวิ่งเมื่อสักประมาณ 10 ถึง 20 ปีที่แล้ว ก็คงจะเป็นกีฬาวิ่ง ที่มีนักวิ่งหลายคน แข่งกันวิ่งอยู่ในลู่วิ่งบนสนามวิ่ง ใครถึงเส้นชัยก่อนคนนั้นก็จะเป็นผู้ชนะ ได้รับเหรียญรางวัลตามลำดับการเข้าเส้นชัย แต่ ณ ปัจจุบันกีฬาวิ่งได้กับกลายมาเป็นกิจกรรมอันยอดฮิตของหลาย ๆ หน่วยงาน ไม่ว่าใครจะทำการกุศลใด ๆ หรือโปรโมทกิจกรรมใด ๆ ก็มักจะดึงกีฬาวิ่งเข้ามาเป็นกิจกรรมหลักของงานนั้น ๆ เพราะคนในยุคปัจจุบันให้ความสนใจกับการวิ่งเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นกีฬาที่เป็นพื้นฐานสำหรับการใช้ชีวิตอยู่แล้ว จึงทำให้การเริ่มเข้ามาอยู่ในวงการวิ่งนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ยากจนเกินไป แต่รู้หรือไม่ว่า การจะเข้ามาอยู่ในวงการวิ่งนั้น จะเข้ามาอย่างตัวเปล่าไม่ได้ เพราะนอกจากใจจะรักและสนใจในการวิ่งแล้ว คุณยังต้องมีอุปกรณ์สำหรับการวิ่งอีกด้วย อุปกรณ์สำหรับการวิ่งที่ยอดนิยมจะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย

ไอเท็มที่ต้องมีเมื่อเข้าสู่วงการวิ่ง

ไอเท็มของการวิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับนักวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นวิ่งมาราธอน วิ่งฟันรัน วิ่งระยะสั้น หรือการวิ่งแบบไหนก็ตามแต่ ได้แก่

1.รองเท้า เป็นอุปกรณ์ที่เรียกได้ว่า น่าจะสำคัญที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ทั้งหมด เพราะการวิ่งที่ดีนั้น ควรใช้รองเท้าวิ่งที่ดีที่เข้าและเหมาะสมกับนักวิ่งด้วย เพราะเราไม่สามรถใส่รองเท้าอื่น ๆ ไปวิ่งได้ เนื่องจากอาจจะทำให้สุขภาพเท้าของนักวิ่งมีปัญหาภายหลังการวิ่งได้ เพราะฉะนั้นแล้วก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อรองเท้าวิ่งสักคู่ คุณต้องศึกษาข้อมูลและสังเกตความต้องการของเท้าของตัวเองให้ถี่ถ้วนเสียก่อน

2.นาฬิกา ต้องเป็นนาฬิกาที่สามารถดูอัตราการเต้นของหัวใจได้ (Heart Rate) ดูระยะทางในการวิ่งได้ (Distance) ดูอัตราการเผาผลาญพลังงานแคลอรี่ได้ (Cal Burn) ดูค่าความดัน ดูค่าไขมันได้ หรือแม้แต่จะเป็นค่าความกดอากาศก็ตาม ซึ่งนาฬิกาแต่ละยี่ห้อก็จะมีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกันไป อยู่ที่ว่านักวิ่งคนนั้นจะเลือกนาฬิกาแบบไหนนั่นเอง

3.หูฟัง อีกหนึ่งอุปกรณ์ยอดฮิตที่นักวิ่งทุกคนแทบจะมีไว้ในครอบครอง อุปกรณ์ชิ้นนี้จะช่วยเพิ่มความบันเทิงและความเพลิดเพลินระหว่างวิ่งให้กับนักวิ่งได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการวิ่งได้อีกด้วย

4.กางเกงวิ่ง ส่วนมากนักวิ่งจะเลือกกางเกงวิ่งที่มีความเหมาะสมกับสรีระของร่างกายตนเอง บางคนอาจจะเลือกใช้กางเกงขาสั้น บางคนอาจจะเลือกใช้กางเกงขายาว ก็แล้วแต่ตามความสะดวกของแต่ละคน ส่วนเสื้อนั้นจะได้รับจากงานวิ่งที่ลงสมัครไว้อยู่แล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่า มีบางคนที่ลงสมัครวิ่งเพราะมีเสื้อที่น่ารัก ๆ เป็นแรงจูงใจ

จากที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงอุปกรณ์ที่นักวิ่งส่วนใหญ่นิยม บางคนอาจจะมีมากหรือมีน้อยกว่าที่กล่าวมาก็ได้ แต่ที่แน่ ๆ การวิ่งนั้น นอกจากจะทำให้ร่างกายของนักวิ่งไกลห่างโรคแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจ ความสามัคคีของคนไทยในอีกแง่มุมหนึ่งด้วย เพราะในแต่ละครั้งที่มีงานการกุศลและมีกิจกรรมการวิ่งพ่วงเข้ามาด้วยนั้น เรามักจะเห็นว่ามีคนไม่น้อยเลยที่ลงสมัครร่วมงานวิ่ง เพราะค่าสมัครส่วนหนึ่งจะถูกบริจาคไปตามจุดประสงค์แห่งการกุศลต่าง ๆ เช่น เพื่อผู้ป่วยโรคหัวใจ เพื่อบริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลของรัฐ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม กระแสฮิตของการวิ่งก็ส่งผลดีในเรื่องของสุขภาพให้กับผู้วิ่งโดยตรงนั้นเอง


3 สโมสรฟุตบอลหญิงชื่อดังที่น่าสนใจ ไม่แพ้กับสโมสรฟุตบอลชาย

หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าสโมสรฟุตบอลดัง ๆ เช่น ปีศาจแดงแมนยู, แมน เชสเตอร์ ซิตี้ เรือใบสีฟ้า หรือลิเวอร์พูล นอกจากจะมีทีมฟุตบอลชายแล้ว สโมสรเหล่านี้ยังมีทีมฟุตบอลหญิงอีกด้วยนะ แถมกติกาและรูปแบบเกมการแข่งขันไม่ได้ต่างไปจากทีมฟุตบอลชายเลย วันนี้ทางเราจะมาแนะนำสโมสรฟุตบอลหญิงชื่อดังให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักกัน ซึ่งจะมีทีมอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น ตามไปอ่านกันได้เลย

ทีมฟุตบอลหญิงที่น่าสนใจ

ทีมฟุตบอลหญิงที่น่าสนใจและมีฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นมีหลายทีมอยู่ด้วยกัน แต่ทางเราขอเลือกสรรทีมที่น่าสนใจที่สุด มาให้ผู้อ่านได้ทำความรู้จักกัน ซึ่งได้แก่

สโมสรฟุตบอลหญิงแมนยู ถึงแม้แฟนบอลหลาย ๆ คนของทีมฟุตบอลชายปีศาจแดงแมนยู อาจเบื่อหน่ายกับฟอร์มการแข่งขันของพวกเขาในช่วงนี้ แต่ขอบอกเลยว่าสโมสรปีศาจแดงเขาก็มีทีมฟุตบอลหญิงที่มีฝีเท้าดีเหมือนกันนะ แม้เพิ่งจะก่อตั้งสโมสรฟุตบอลหญิงได้ไม่นานนัก แต่ปีศาจสาวก็โชว์ผลงานได้เป็นที่น่าพึงพอใจเลยทีเดียว และที่สำคัญพวกเขาเคยคว้าแชมป์ลีกแชมป์เปี้ยนชิพมาแล้วด้วย

สโมสรฟุตบอลหญิงแมน เชสเตอร์ซิตี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งทีมที่น่าสนใจเลยทีเดียว เพราะบอร์ดบริหารมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ทำการกว้านซื้อนักเตะตัวเก๋า ๆ มาจากหลาย ๆ ประเทศ อีกทั้งยังทำการซื้อนายประตูฝีมือดีมาเสริมทัพทีมอีกด้วย เรียกได้ว่าซื้อความพร้อมเอาไว้ให้สโมสรฟุตบอลหญิงในการลงแข่งไว้หมดแล้ว ทำให้สโมสรนี้น่าจับตามองเป็นอย่างมาก แต่จะทำฟอร์มการเตะได้ดีมากขนาดไหนกันนั้น ฝากแฟนบอลทั้งหลายของทีมนี้ร่วมเชียร์และร่วมตัดสินฝีเท้าการเตะของพวกเขาด้วยนะ

สโมสรฟุตบอลหญิงบาร์เซโลน่า สโมสรสัญชาติสเปนทีมนี้ ฟอร์มดีทั้งทีมฟุตบอลชายและฟุตบอลหญิงเลยก็ได้ว่า เพราะทางทีมนั้นได้วางรูปเกมและเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี โดยการทำการซื้อนักเตะหญิงแข้งทอง มากความสามารถมาจากหลาย ๆ ที่ ทำให้ทีมฟุตบอลหญิงบาร์เซโลน่ามีความแข็งแกร่งและความพร้อมที่ไม่ด้อยไปกว่าทีมอื่น ๆ เลย แต่ทีมนี้จะสามารถคว้าแชมป์ได้หรือไม่ รอติดตามผลงานกันได้เลย 

อย่างที่ทุกท่านรู้กันว่า โลกสมัยใหม่ไม่นิยมแบ่งแยกชายหญิง เน้นให้ความเท่าเทียมกันทุกเพศสภาพ แม้แต่เกมกีฬาก็ยังก้าวข้ามคำว่าเพศสภาพได้ ดังนั้นแล้วการเปิดใจเชียร์ฟุตบอลหญิง ถือเป็นการสร้างบรรยากาศความสนุกในการเชียร์ฟุตบอลแบบใหม่ ๆ และขอบอกว่าฟุตบอลหญิงมีความสนุกที่ไม่แพ้ฟุตบอลชายเลย หากท่านเป็นแฟนฟุตบอลหญิงทีมใดทีมหนึ่ง ก็อย่าลืมส่งแรงใจไปเชียร์ทีมฟุตบอลสุดโปรดของท่านด้วยนะ และทางเราขอฝากฟุตบอลหญิงเอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของท่านทั้งหลายด้วย


“คอนโด” นักกีฬาเปตองทีมชาติไทย กับความแม่นยำระดับโลก

หากเปิดหัวข้อพูดถึงกีฬาเปตอง หลาย ๆ คนอาจคิดว่า กีฬาเปตองเป็นเพียงกีฬาที่คู่แข่งขัน แข่งกันโยนลูกเปตองให้ใกล้ลูกแก่นให้ได้มากที่สุด ทีมไหนโยนใกล้กว่าทีมนั้นก็จะได้คะแนน แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย กีฬาเปตองถือเป็นกีฬาที่ไม่ได้เล่นกันง่าย ๆ เพราะนอกจากจะต้องคำนวณน้ำหนักของลูกเปตองในการโยนให้เข้าใกล้ลูกแก่นมากที่สุดแล้ว ยังต้องคำนวณน้ำหนักในการโยนเพื่อตีลูกเปตองของคู่แข่งออก เพื่อลดคะแนนคู่แข่ง อีกทั้งยังต้องอ่านเกมของคู่แข่งตลอดการแข่งขัน เพราะกีฬาประเภทนี้ ไม่มีเวลากำหนดในการแข่งขัน เรียกได้ว่า การแข่งขันเปตองในแต่ละสนามนั้น จะต้องใช้ทั้งความรู้ ความคิด และสมาธิในการแก้เกมไปพร้อม ๆ กันเลย

“คอนโด” หนุ่มหน้าเข้มกับฝีมือการเล่นเปตองขั้นเทพ    

ฟังจากชื่อก็รู้เลยใช่ไหมหละ ว่ากีฬาเปตองไม่ได้เกิดขึ้นหรือมีต้นกำเนิดมาจากประเทศไทยหรือประเทศแทบเอเชีย แต่รู้หรือไม่ว่า ประเทศไทยมีนักกีฬาเปตองทีมชาติเช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ในยุโรปเหมือนกันนะ และในวันนี้ทางเราจึงขอนำเสนอนักกีฬาเปตองทีมชาติไทยตัวจี๊ด ที่มีความแม่นยำจนหลาย ๆ ทีมในยุโรปไม่อยากเผชิญการแข่งขันด้วย ชายผู้นั้นก็คือ “นายธนากร สังข์แก้ว” หรือ “คอนโด” นั่นเอง  

เจ้าคอนโด เป็นเด็กหนุ่มหน้าเข้มคมที่สนใจการเล่นเปตองมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก แถมตอนแข่งขันกีฬาเปตองเยาวชนโลก เขายังสามารถคว้าแชมป์เปตองเยาวชนโลกได้อีก และที่สำคัญเขาเคยล้มแชมป์โลกตัวเก๋าอย่าง ซอค จันมึน ชาวกัมพูชามาแล้วด้วย นอกจากนี้ฝีมือการตีเปตองของเจ้าคอนโด ยังเป็นที่เลื่องลือในหมู่นักกีฬาเปตองทีมชาติ เพราะนอกจากเขาจะมีโอกาสได้ไปแสดงฝีมือการแข่งขันเปตองให้ชาวยุโรปได้รับชมและฮือฮากันแล้ว เขายังสามารถคว้ารางวัลกลับประเทศไทยมาได้หลายรายการอยู่บ่อย ๆ จนนักกีฬาเปตองทีมชาติของยุโรปหลาย ๆ ทีม ต่างคิดหนักเมื่อได้ลงแข่งขันกับเจ้าคอนโด เรียกได้ว่าเจ้าคอนโดคืออุปสรรคชิ้นใหญ่ของนักเปตองทีมชาติอื่น ๆ และปัจจุบันเจ้าคอนโดก็ยังทำผลงานและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

น่าเสียดายที่สถานีโทรทัศน์ของไทยไม่ค่อยถ่ายทอด

การรับชมการแข่งขันกีฬาเปตอง เป็นอะไรที่ลุ้นและได้อรรถรสไม่ต่างจากกีฬาประเภทอื่น ๆ เลย แต่ต่างกันตรงที่กีฬาชนิดนี้จะต้องใช้ความนิ่ง ความแม่นยำ ซึ่งกีฬาชนิดอื่น ๆ ส่วนมากจะต้องใช้ความคล่องแคล่ว ว่องไว ในการแข่งขัน แต่น่าเสียดายมากที่สถานีโทรทัศน์ของประเทศไทยแทบจะไม่ค่อยได้ถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาเปตอง ให้คนไทยได้รับชม ทั้ง ๆ ที่มีโปรแกรมการแข่งขันระดับโลกอยู่บ่อยครั้ง ส่วนมากจะเห็นก็มีเพียงแต่การถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์ หรือเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ตจากกลุ่มคนที่สนใจในกีฬาเปตอง

แต่อย่างไรก็ตาม พี่น้องชาวไทยสามารถให้กำลังใจและตามไปเชียร์นักกีฬาเปตองทีมชาติไทยของเราได้นะ เพราะกำลังใจที่ดีที่สุดสำหรับนักกีฬาไทย ก็คือ กำลังใจจากคนไทยนั้นเอง


จากการละเล่นพื้นบ้าน กลายมาเป็นกีฬาท้องถิ่นสุดฮิต

การละเล่นไทยในอดีตมีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการละเล่นทางน้ำ ทางบก หรือทางลมก็ตาม แสดงให้เห็นว่าคนไทยมีความคิดสร้างสรรค์และเป็นนักคิดตัวยง และการละเล่นไทยในอดีตนั้นถูกส่งต่อมายังคนในยุคปัจจุบันในรูปแบบของการกีฬา ทำให้นึกถึงกลิ่นอายของความเป็นพื้นบ้านของไทยในสมัยก่อน ซึ่งการละเล่นไทยที่มักจะถูกหยิบยกใช้มาเป็นกีฬาท้องถิ่นนั้น มีด้วยกันหลายการละเล่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น เดินกะลา ตีวงล้อ ชักกะเย่อ หรือวิ่งกระสอบ เป็นต้น

การละเล่นดังกล่าวข้างต้นมักจะถูกนำมาใช้ในการแข่งขันกีฬาในระดับท้องถิ่น เช่น กีฬาตำบล กีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า กีฬาอบจ. กีฬาหน่วยงาน เป็นต้น เพราะการละเล่นดังกล่าวนั้น เป็นการละเล่นที่เรียบง่าย อาศัยทักษะ ไหวพริบปฏิภาณในการแข่งขันเป็นหลัก ซึ่งวันนี้เราจะนำพาท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับการละเล่นดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น

การละเล่นสุดฮิตที่กลายมาเป็นกีฬา

การละเล่นสุดฮิตที่กลายมาเป็นกีฬาที่พบเห็นได้บ่อยครั้งในยุคปัจจุบัน ได้แก่

1.เดินกะลา การแข่งขันเดินกะลานั้นจะต้องอาศัยการทรงตัวที่ดีและความว่องไว เพราะหากทรงตัวไม่ดีจะทำให้ไม่สามารถเดินบนกะลาทั้งสองอันได้ เนื่องจากกะลาทั้งสองอันนั้น ไม่ได้มีความสมดุลหรือมีขนาดที่เท่ากัน ผู้แข่งขันจึงต้องหาเทคนิคในการเดินบนกะลาให้ได้ จึงจะสามารถทำให้ชนะการแข่งขันได้

2.ตีวงล้อ หากดูผิวเผินแล้ว การตีวงล้อดูเหมือนจะทำได้ง่าย ๆ แต่ไม่ใช่เลย เพราะการตีวงล้อนั้นจะต้องอาศัยน้ำหนักมือและความต่อเนื่องในการตีวงล้อ อีกทั้งยังต้องควบคุมทิศทางให้ดี เพราะหากขาดประสบการณ์ในการตีวงล้อ หรืออ่อนซ้อมในการตีวงล้อ ก็จะทำให้วงล้อหล่นลงกลางทางได้ ดังนั้นแล้วผู้เข้าแข่งขันควรจะซ้อมตีวงล้อก่อนการแข่งขัน

3.ชักกะเย่อ การละเล่นชนิดต้องอาศัยความร่วมมือ ความสามัคคีของสมาชิกในทีม เพราะการจะชนะชักกะเย่อได้นั้น ทุกคนในทีมต้องร่วมมือร่วมใจกันดึงเชือกในจังหวะที่พร้อมเพรียงกัน จึงจะส่งแรงดึงไปยังคู่แข่งได้

4.วิ่งกระสอบ แม้ว่าการวิ่งกระสอบจะเป็นการละเล่นที่เพิ่งมีไม่นานเหมือน ๆ การละเล่นอื่น แต่ก็มีมานานพอสมควรแล้ว และการละเล่นชนิดนี้ผู้เข้าแข่งขันจะต้องสวมกระสอบเข้าที่ขาทั้งสองข้าง โดยที่มือทั้งสองข้างจับมุมกระสอบทั้งสองมุม จากนั้นก็แข่งกันวิ่งเข้าสู่เส้นชัย ผู้ที่เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกคือผู้ชนะ และหากไม่มีการซ้อมมาเป็นอย่างดี ผู้เข้าแข่งขันอาจจะวิ่งไปกลิ้งไปตามพื้นสนามได้ ดังนั้นผู้เข้าแข่งขันต้องคุ้นชินกับความกว้างของกระสอบ และจะต้องกะระยะการก้าวในแต่ละครั้งให้เหมาะสมกับความกว้างของกระสอบด้วย    

จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าการละเล่นไทยไม่นิยมเล่นคนเดียวได้ เพราะมักจะเล่นกันเป็นหมู่คณะ และที่สำคัญการนำการละเล่นไทยพื้นบ้านมาเป็นกีฬาท้องถิ่นนั้น นอกจากจะทำให้เกิดการอนุรักษ์การละเล่นพื้นบ้านของไทยแล้ว ยังทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีในหมู่คณะอีกด้วย  


รู้หรือไม่ว่าโอลิมปิกฤดูหนาวแข่งอะไรกันบ้าง

หลาย ๆ คนโดยเฉพาะประเทศโซนร้อนรู้จักการแข่งขันโอลิมปิก เพราะมีประเทศของตัวเองให้ติดตามเชียร์กีฬา แต่รู้หรือไม่ว่าโอลิมปิกมีทั้งสองแบบ คือ โอลิมปิกฤดูร้อนและโอลิมปิกฤดูหนาว ประเทศโซนร้อนอย่างไทย คงจะไม่มีโอกาสส่งนักกีฬาลงแข่งกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวแน่นอน เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ขนาดกรมอุตินิยมวิทยาประกาศว่าเข้าหน้าหนาวแล้ว ก็ยังร้อนชนิดที่ว่าเหงื่อไหลไคลย้อยกันเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะหนาวก็หนาวเพียงไม่กี่วัน และที่สำคัญก็คงหนาวไม่ถึงขั้นหิมะตกแน่นอน แต่เชื่อหรือไม่ว่าเคยมีคนไทย สัญชาติไทยแท้ ๆ เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2002 คน ๆ นั้นคือ ดร.ปรวรรธณ์ นาควัชระ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาทำความรู้จักกันเถอะว่า “โอลิมปิกฤดูหนาว” คืออะไร และมีกีฬาอะไรบ้างที่ถูกบรรจุเอาไว้ใช้แข่ง

โอลิมปิกฤดูหนาวคืออะไร

โอลิมปิกฤดูหนาว มีลักษณะคล้ายคลึงกับโอลิมปิกฤดูร้อนที่จัดขึ้นทุก ๆ สี่ปี แต่จะต่างกันที่กีฬาที่ใช้แข่งขันนั้น ต้องเป็นกีฬาที่เล่นในฤดูหนาวเท่านั้น และประเทศที่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้นั้นส่วนมากจะเป็นประเทศที่อยู่ในแถบหนาวเย็น มีหิมะปกคลุม แต่ก็เคยมีประเทศโซนร้อนอย่างเม็กซิโกที่เข้าร่วมการแข่งขันในปี ค.ศ. 1928 ณ สวิสเซอร์แลนด์ แต่หลาย ๆ ประเทศ ยังไม่ให้การยอมรับว่าเม็กซิโกคือประเทศโซนร้อน เนื่องจากเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ และมีสภาพอากาศที่หลากหลาย ส่วนประเทศแรกที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าเป็นประเทศโซนร้อนที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว คือ ฟิลิปปินส์ หลังจากนั้นก็มีประเทศโซนร้อนร่วมแข่งขันมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น มาเลเซีย ไทย ฮ่องกง จาไมกา โบลิเวีย บราซิล ฮอนดูรัส ฟิจิ ตองกา เป็นต้น

กีฬาที่แข่งในโอลิมปิกฤดูหนาว

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่ากีฬาที่ใช้ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวนั้น ต้องเป็นกีฬาที่เล่นในฤดูหนาว ซึ่งแบ่งได้เป็นเจ็ดกลุ่มกีฬา ได้แก่
                1.กลุ่มกีฬาสเกต
                2.กลุ่มกีฬาบอบเสล
                3.กลุ่มกีฬาสกี
                4.กีฬาลูช
                5.กีฬาเคอร์ลิง
                6.กีฬาทวิกีฬาฤดูหนาว
                7. กีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง
ซึ่งกีฬาที่กล่าวมาข้างต้นไม่มีให้เล่นในเมืองไทยเลยใช่ไหมเอ่ย จะมีเพียงก็แต่ลานสเกตตามห้างใหญ่ ๆ แต่ขอบอกเลยว่ารสชาติการไถสเกตในห้างกับในสนามแข่งมันคนละเรื่องกันเลย เพราะในสนามแข่งนั้นมีทั้งความกดดัน สภาพอากาศ และพื้นที่ที่เป็นอุปสรรค ซึ่งไม่ได้มีผิวเรียบเหมือนกับลานไถสเกตในห้าง

โอกาสของคนไทยที่จะโอลิมปิกฤดูหนาว

มีคนไทยไม่น้อยเลยที่เติบโตอยู่ต่างประเทศในเมืองหนาว ๆ แสดงให้เห็นว่าคนเหล่านี้สามารถเป็นกำลังสำคัญในการเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ประกอบกับการสนับสนุนที่ดีของรัฐบาล หากรัฐบาลมีทุนสนับสนุนนักกีฬาให้ไปฝึกซ้อมอย่างแน่แน่ว เชื่อว่าคนไทยก็มีความสามารถไม่แพ้ชาวต่างชาติที่เกิดในประเทศหนาว ๆ เลย และไม่แน่นะ ในอนาคตอาจเป็นคนไทย สัญชาติไทยแท้ ๆ นี่แหละ ที่สามารถคว้าแชมป์รายการใดรายการหนึ่งกลับประเทศไทยได้อย่างสวยงาม


เอกนิษฐ์ ปัญญา ผู้มีฝีเท้าที่ไม่ธรรมดามาตั้งแต่เด็ก

หลังจากนักฟุตบอลทีมชาติไทย จารึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญให้กับวงการฟุตบอลไทยอีกครั้ง โดยการเฉือนชนะทีมชาติสหรัฐอาหรับมิเรตส์ได้อย่างหวุดหวิดสองประตูต่อหนึ่ง ถึงแม้ว่าสหรัฐอาหรับมิเรตส์จะมีนักเตะตัวเก๋าหลายคนลงแข่งก็ตาม อาทิเช่น อาลี มาบคูท อาห์เหม็ด คาลิล หรือ โอมาร์ อับดุล รามาน เป็นต้น

ถึงแม้ว่าการแข่งขันครั้งนี้จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า รูปเกมการเล่นของเราดีกว่า และมีเปอร์เซ็นต์การครองบอลที่ดีกว่า เรียกได้ว่าแทบจะพับสนามคู่แข่งเลยทีเดียวเชียว แต่เวลาโดนทีมคู่แข่งสวนกลับก็ทำให้หนาวได้เลยทีเดียว เพราะลูกสวนของทีมชาติสหรัฐอาหรับมิเรตส์นั้นมีพลังไม่น้อยเลย ในเกมนี้การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกปี 2020 ระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติสหรัฐอาหรับมิเรตส์เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 ทำให้เกิดดาวรุ่งคนใหม่ขึ้นโดยทันที นั่นก็คือ “เอกนิษฐ์ ปัญญา”

เอกนิษฐ์ ปัญญา จากเด็กชายกล้าฝัน สู่นักฟุตบอลทีมชาติไทย

กว่าจะมาเป็นเอกนิษฐ์ ปัญญาอย่างในปัจจุบันนี้ เรียกได้ว่าไม่ง่ายเลย เพราะกว่าจะผ่านความลำบากมาได้แต่ละสนามนั้น ต้องใช้ทั้งความพยายามและความอดทนอดกลั้น เอกนิษฐ์ ปัญญา หรือบุ๊ก ในวัยเด็กมักจะติดตามคุณพ่อของเขาไปชมการแข่งขันฟุตบอลในสนามต่าง ๆ จนฟุตบอลกลายเป็นสิ่งแวดล้อมของเขาไปโดยปริยาย วันหนึ่งบุ๊กได้มีโอกาสเข้าไปร่วมฝึกเตะกับสโมสรสิงห์เชียงรายยูไนเต็ด และหลังจากนั้นเขาก็ได้เตะให้กับทีมเยาวชนสิงห์เชียงรายยูไนเต็ดรุ่นอายุ 14 ปี จากนั้นไม่นานเขาก็ได้ลงเตะให้กับสโมสรสิงห์เชียงรายชุดใหญ่ เนื่องจากฝีเท้าในการเตะของเขาไม่ธรรมดาเหมือนเด็กทั่วไป ถึงแม้ว่าการเตะให้กับสโมสรเชียงรายชุดใหญ่ในครั้งแรกนั้น เขาจะได้ลงเตะในสนามในช่วงท้ายของเกมเพียงไม่กี่นาทีในฐานะตัวสำรอง แต่นั้นก็มีความหมายกับเด็กอายุเกือบ 16 ปียิ่งนัก อีกทั้งเขายังถูกบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ของฟุตบอลไทยลีกในประเด็น เด็กอายุน้อยที่สุดที่ได้เตะไทยลีกชุดใหญ่ จึงทำให้เป็นแรงผลักดันและแรงบันดาลใจให้กับเขาในการทุ่มเทซ้อมได้เป็นอย่างดี

บุ๊กเป็นนักเตะที่ไม่เคยย่อท้อในการซ้อม อีกทั้งยังพัฒนาฝีเท้าของตัวเองอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดฟอร์มการเตะฟุตบอลของบุ๊กก็ไปเข้าตาโค้ชอากิระ นิชิโนะ จนได้ และสุดท้ายเขาก็ได้ลงเตะให้กับฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ในนัดที่พบกับสหรัฐอาหรับมิเรตส์ ด้วยวัยเพียง 19 ปีเท่านั้น และที่สำคัญเขายังทำแอสติสโดยการเปิดลูกสวย ๆ โยนให้ ธีรศิลป์ แดงดา โหม่งทำประตูแรกให้กับทีมชาติไทยในนาทีที่ 26 แต่ไม่นานนักสหรัฐอาหรับมิเรตส์ ก็ตีประตูเสมอได้ในนาทีทดบาดเจ็บของครึ่งแรก

แต่เมื่อเริ่มครึ่งหลัง การแข่งขันก็เริ่มเข้มข้นขึ้น จนทำให้แฟนบอลไทยเกือบห่อเหี่ยวหัวใจ แต่แล้วฮีโร่ตัวน้อยอย่างบุ๊กก็ได้ทำให้คนไทยได้เฮอีกครั้ง โดยการซัดประตูคู่แข่งไปอีกหนึ่งดอก และสุดท้ายก็เป็นทีมชาติไทยที่สามารถเอาชนะยูเออีไปได้ หลังจากไม่ชนะมา 15 ปี และท้ายที่สุดแล้วคนที่ได้รางวัล Man of the match ก็คือเขานั่นเอง

จากเรื่องราวของบุ๊กข้างต้น ทำให้เห็นสัจธรรมอย่างหนึ่งคือ “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น” หากท่านไม่เชื่อ ก็ลองดูบุ๊กน้อยคนนี้เป็นตัวอย่างได้นะ


ฟุตซอล! อีกหนึ่งกีฬาสุดฮิตของประเทศไทย

อีกหนึ่งกีฬายอดฮิตในประเทศไทยอีกชนิดหนึ่งคงจะต้องมีกีฬาฟุตซอลอยู่ด้วยแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเจ้ากีฬาที่มีลักษณะคล้ายฟุตบอลนี้นั้นใช้อุปกรณ์ในการเล่นเพียงไม่กี่อย่างนั่นก็คือ ลูกฟุตซอลและประตูฝั่งละข้าง นอกจากนั้นแล้วยังใช้พื้นที่ในการเล่นที่ไม่ใหญ่มากอีกด้วยซึ่งเหมาะสมกับประเทศไทยที่หากจะหาสนามหญ้าหรือสนามขนาดใหญ่ก็คงจะลำบากยิ่ง โดยเฉพาะในตัวเมืองที่เต็มไปด้วยตึกคอนกรีตเสียส่วนใหญ่ ทำให้การหาพื้นที่เล็ก ๆ ซักที่อย่างสนามกีฬาในหมู่บ้าน, โรงเรียน, สวนสาธารณะออกกำลังกาย ก็สามารถเล่นกีฬาชนิดนี้ได้แล้วอย่างไม่ยากเย็น ซึ่งจะพบเห็นกีฬาชนิดนี้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายทั้งในวัยเด็ก, วัยรุ่น ไปจนถึงวัยทำงานที่ต้องการออกกำลังกาย

ลูกหนังโต๊ะเล็ก ที่ไม่เล็กในระดับโลก

อย่างที่กล่าวมาในข้างต้นมาว่ากีฬาฟุตซอลหรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “ลูกหนังโต๊ะเล็ก” นั้นเป็นกีฬาที่นิยมอย่างมากของชาวไทย แต่ที่สำคัญนั้นกีฬาฟุตซอลยังเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นในระดับภูมิภาคอาเซียน, ระดับทวีปเอเชีย ไปจนถึงระดับโลก เห็นได้ชัดจากการที่ทีมฟุตซอลทีมชาติไทยมีอันดับที่ยอดเยี่ยมจากการจัดอันดับของ “สหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ” หรือฟีฟ่า ซึ่งอันดับที่เคยสูงที่สุดอยู่ที่อันดับ 9 ของโลก เมื่อปี2009 นอกจากนั้นแล้วโต๊ะเล็กทีมชาติไทยยังสามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายในศึก “ฟุตซอลเวิลด์คัพ” ที่เปรียบเสมือนรายการฟุตบอลโลกของกีฬาฟุตบอล ได้ติดต่อกันถึง5สมัตติดตั้งแต่ปี ค.ศ.2000-2016 (จะมีการจัดการแข่งขันทุก ๆ 4 ปี) รวมถึงการเป็นรองแชมป์ระดับทวีปเอเชียอีก 2 ครั้งในปี ค.ศ.2008 และ ปี ค.ศ.2012 ส่วนระดับอาเซียนต้องบอกว่าฟุตซอลทีมชาติไทย คือ ราชา อย่างแท้จริงจากการคว้าแชมป์ไปถึง 8 สมัย จากการเข้าร่วมไป 14 ครั้ง

นอกจากในระดับทีมชาติแล้ว ฟุตซอลไทยในระดับสโมสรยังเป็นที่โด่งดั่งในระดับทวีปเอเชียจนถึงระดับโลกอีกด้วยโดยเฉพาะ “ชลบุรี บลูเวฟ” ทีมมหาอำนาจลูกหนังโต๊ะเล็กในประเทศไทย ที่สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์สโมสรเอเชียไปได้ถึง 2 ครั้ง ท่ามกลางทีมจากทวีปเอเชียตะวันออกกลางที่แข็งแกร่งในกีฬาชนิดนี้ อีกทั้งยังสามารถคว้าอันดับ 4 ของการชิงแชมป์ฟุตซอลสโมสรโลกได้อีก 2 ครั้งในปี ค.ศ.2014 และ ค.ศ.2018 เมื่อไม่กี่ปีมานี้

นักกีฬาฟุตซอลผู้เป็นต้นแบบให้แก่เยาวชนไทย

ปัจจัยสำคัญหลักที่ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศชั้นนำในกีฬาชนิดนี้ได้ก็คือ ตัวนักกีฬาฟุตซอล ชื่อดังหลายต่อหลายคนที่มีชื่อเสียง ยกตัวอย่างเช่น “อาร์ม” ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง นักเตะตำแหน่งกองหน้า ที่มีดีกรีเคยเป็นถึงนักฟุตซอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปเอเชีย ผู้เป็นไอดอลของเยาวชนไทยที่สนใจในกีฬาชนิดนี้ ซึ่งสิ่งที่น่าเอาเป็นแบบอย่างของเขาคือการเอาจริงเอาจังที่ขยันหมั่นฝึกซ้อมตั้งแต่เยาวชนจนไต่เต้าสู่การเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมให้แก่ทีมชาติได้

เพราะฉะนั้นแล้วการส่งเสริมกีฬาชนิดนี้ต่อเยาวชนไทยจึงเป็นสิ่งที่สมควรอย่างยิ่ง เพื่อให้ประเทศของเราผลิตนักกีฬาฟุตซอลที่มีความสามารถออกมาวาดลวดลายสู่ทั้งในระดับสโมสรและระดับทีมชาติต่อไปได้อีกในอนาคต